: MSZ-006 Z GUNDAM ผลิตโดย Anaheim Electronics เป็นโมบิลสูทชนิด VMsAWrs - Variable Mobile-suit And Wave-rider system (สามารถแปลงไป_มา ระหว่าง หุ่นกับเครื่องบินได้) ในภาค Z Gundam มีนักบินหลักคือ Kamille Bidan
: AMX-004 QUBELEY ผลิตโดย Axis เป็นโมบิลสูทรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับ newtype โดยเฉพาะใช้ มีอาวุธแบบใหม่ที่เรียก Funnels เป็นอาวุธรีโมทควบคุมโดยระบบ psycommu โดยจะเก็บอยู่ในแผ่นเกราะด้านหลังลำตัวขนาดใหญ่ AMX-004 Qubeley เป็นเครื่องประจำตัวของ Haman Karn (สีขาว) มีการผลิตเพิ่มออกมาอีก 2 ตัวในภาค ZZ Gundam คือ AMX-004 Qubeley Mk-II เพื่อเป็นเครื่องของ Elpeo Ple กับ Ple Two (สีน้ำเงิน / สีแดง)
: ตัวโมเป็น non scale ของ Bandai รุ่น Gandam Artifact ซึ่งเป็นโมเดลขนาดเล็ก มีชิ้นส่วนประมาณ 4-5 แผง ต่อเสร็จสูงประมาณ 5-6 cm ขยับไม่ได้ แต่ออกแบบได้หล่อมาก มีออกมาแล้ว 4 ชุด โดยชุดที่ 1-3 จะมี 4 แบบ / ชุดที่ 4 มี 5 แบบ ผมว่า Gundam Artifact ถึงจะตัวเล็กแต่มีข้อดีคือชิ้นส่วนไม่มากรูปทรงสวยงามต่อง่าย ติดที่เวลาทำสีจะต้องเพ่งนิดนึงเพราะตัวเล็กมาก
: MSZ-006 Z GUNDAM
: AMX-004 QUBELEY
: ——————:
: ก่อนทำสี
เพิ่งได้มาเมื่อบ่ายของวานนี้ เป็นอีกตัวในสมัยก่อนที่น่าเก็บแต่ก็ไม่ได้ซื้อไว้ จนมันได้ออกมาเป็นลำดับที่สองในยุคใหม่
ซึ่งด้วยเทคโนโลยีการผลิตโมฯของยุคปัจจุบันละด้วย มันเลยแทบจะไร้ที่ติ แยกชิ้นส่วนมาให้สามารถต่อดิบ/แกะแยกออกมาไล่ทำสีได้สะดวก ตัวนี้ ปีกทำได้ดีกว่าตัวเอก Dunbine เลย ไม่หลุดร่วงง่ายๆ ใช้เวลาต่อไม่นาน มีความเสถียร/มั่นคงมาก ตัวที่ได้มามีแค่จุดเดียวที่มีร่องรอย คือชิ้นสีเขียวกึ่งใสที่เป็นฝากครอบห้องนักบิน มีรอยเหมือนจะแตกร้าวไงก็ไม่รู้ แต่ไว้มีเวลาจะลองแก้ไขดูแหละ
ไล่ดูแบบฉบับรวบรัดเลยครับ
เป็นตัวหลักที่ตอนแรกกะว่าลำดัยสองจะเป็น drumlo แต่กลายมาเป็นตัวนี้ที่ได้ออกก่อน ตอนกลังต่อสามารถยืนได้ด้วยขาข้างเดียวเลย
แน่นหนา Balance ดีเยี่ยม ไม่มีจุดย้วยใดๆ เรียกได้ว่า แทบไม่มีให้ต้องติกันเลยสำหรับตัวนี้
ความสูงของเจ้านี่ ตามข้อมูลจะสูง 9.2ม. ตัวโมฯถ้าเทียบกะ MG 1/100 F90 ด้านหลังบนโต๊ะ จะเตี้ยกว่าเล็กน้อย
หน้ากล่องของซีรี่ย์นี้รับรองสวยๆทั้งนั้นแน่นอน คนเก็บ Box Art คงถูกใจแหละ เพราะออกแนว Retro กลับไปให้ใกล้เคียงช่วงเวลาที่ออกฉายและทยอยออกโมฯตามท้องเรื่องออกมา
ลองกางปีกดู ไม่มีท่าทีว่าจะร่วงหลุด/ย้วยแบบ Dunbine เลย จะมีออก Ver1.5 มาแก้แบบ MG ไหมนิ
อีกมุมที่กางปีกแต่มองจากด้านหน้า ใน Box Art ด้านขวาจากรูป เหมือนมีคำใบ้อีกแล้ว ถ้าไม่ตีความผิดไป Drumlo จะมาไหมเอ่ย ส่วนยานสี่ขาด้านซ้ายไม่ได้ทำข้อมูลเลยว่าอะไรยังไง
อาวุธชนิดยิง อันแรกที่ให้มา ในข้อมูลเป็น Five-tube Aura Launchers ให้มาสองอันซ้ายขวาเลย และแบบเดียวกันกับที่ 1/72 Bastole สีม่วงตัวเก่าถือ รับรองย้อม/ออกได้แน่นอน เลยนิ่งๆรอมันออกใหม่ดีกว่า ไม่ดัดแปลงตัวเก่าเยอะเกินแหละ
อีกอันจะเรียกว่า Four-barrel aura shot ไม่แน่ใจ น่าจะเป็นอาวุธเฉพาะของตัวนี้นอกเหนือจากดาบอัศวินรึเปล่า
ในใบต่อมีรูปหน้ากล่องตัวเก่า สวยงามดี ของใหม่เลยจัดท่าทางให้ใกล้เคียง หาฐานเพิ่มเติมหน่อยก็จัดวางได้เหมือนเลย ส่วนตัวอยากลองทำตัวอาคารด้านหลังที่เป้นอิฐโชว์แหละเพราะคุ้นเคยอยุ่แต่ไว้มีเวลาว่างเยอะๆก่อนแหละ ถึงจะค่อยลองทำดู แอบไปส่องตัวสำเร็จมีแบบ Figure ม้าจำนวนนึงลาก Platform ที่มี Aura battler ยืน น่าจะมาจากตอนใดตอนนึงในเรื่องแหละ น่าลองทำเองอีกอย่างเลย
ด้วยฉากเปิดตัวในเพลงเปิดของ Gundam ที่เห็นใน TV ตอนนั้น ผมจึงหลงเสน่ห์ในหุ่นตาเดียว MonoEye อย่างไม่ต้องสงสัย อีกทั้งเป็นของยอดนักบิน Char Aznable ผู้มีความลับอยู่ใต้หน้ากากด้วยแล้วจึงชอบในหุ่นตระกูลสีแดงแรงสามเท่าอีกด้วย กล่องนี้เคยประกอบตอนเด็ก มีแต่ความทรงจำดีๆ พอเริ่มทำสีเลยซื้อมาอีกเพื่อปิดงานเมื่อ 20ปี เกิดเหตุชิ้นส่วนหายเลยทิ้งไว้จนเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการReProduct อีกครั้ง ได้ Eva-01 เจ้าเดิม ช่วยcopy ชิ้นส่วนมาทดแทน เลยเก็บงานที่ค้างไว้ได้ในที่สุด จำได้ว่าตอนนั้นต้องการทำให้สีคล้ายๆหน้ากล่อง ผสมเอง เลยออกมาโทนนี้ เป็นงานที่พ่นทิ้งไว้เมื่ออายุเท่านั้น จัดจ้านดีจริงๆ ความที่เป็นโมเก่า จุดขยับต่างๆน้อยมาก แต่แฝงด้วยกลื่นความโบราณบอกถึงพัฒนาการของกันพลาได้เป็นอย่างดี ทรวดทรงใกล้เคียงลายเส้น การประกอบอุดขัดกันสนุก แถมต้องทำใจในการพ่นสีที่ยาก แต่เมื่อเสร็จแล้วกลับให้ความรู้สึกดีไปอีกแบบ
Casval’s Gundam มาจากเกม Gihren’s Greed พูดถึง What If ของจักรวาล UC. เป็นอีก Timeline หนึ่งของ Neo Zeon ที่สร้างGundam ตัวนี้ให้ Casval หรือ Char Aznable. ผมมี MG RX-78-2 ver2.0 ต่อไว้นานแล้ว แต่ยังหาไอเดียทำสีที่ชอบไม่เจอ ปัญหานี้จะหมดไปหากคุณได้เจอ Eva-01 หรือ borivader ได้แนะนำสีของ Casval’s RX-78 แต่เป็นตัว Robot Tamashi ซึ่งตอบโจทย์ผมได้ดีมาก โทนสีไม่แสบเจ็บเหมือน Gunpla ที่ออกมาก่อน และไม่เปรี้ยวเหมือนตัวล่าสุด แถมมีแซมด้วยสีเทาดำตามข้อแขนด้วย ผมเริ่มProject นี้ แล้วได้เที่ยวไปชวนน้องๆคนอื่น จนเขาทำเสร็จและเอามาโชว์ในงาน meeting ที่ผ่านมา ส่วนเราเพิ่งเสร็จวันนี้มาช้าตรงพ่นClear ปิดงาน จบวันนี้
รุ่นที่เลือกทำ จะเป็นของสังกัด US. Coast Guard ที่ทาง HobbyBoss ทำออกมาแบบตรงรุ่น decal มีให้เป็น Serial# 6009 ไม่มี options ทางเลือกให้ปรับไปเป็นลำอื่นๆเลย ส่วน Model ของทาง Hasegawa เหมือนจะมีแต่รุ่น SH ที่เป็น SeaHawk ปกติ ก่อนหน้าเคยมี resin kit ที่ไว้สำหรับ Upgrade ไปเป็นของยามชายฝั่งแต่ให้ง่ายเลยเลือกตรงรุ่นดีกว่า
ของค่าย HobbyBoss ลำนี้เป็นอะไรที่ดูสวยงาม บางส่วนเติมเต็มส่วนที่ขาดไปของ Hasegawa ไม่มี เช่น main rotor /ด้านท้าย หมุนได้จริง, บันไดขึ้นของนักบินทั้งสองข้าง (แต่เล็กๆจนพลาดทำหักไปด้านนึงเหมือนกัน) มีเพิ่มเติมส่วน Cabin มาด้วย เป็นฝ้าของห้องโดยสารภายในแต่ไม่ได้ละเอียดอะไรมาก จริงๆก็เหมือนให้มาเพื่อประกอบ/ปิดประตูไม่เปิดโชว์ของด้านใน แต่อดเสียดายไม่ได้เลยว่าจะทำแบบเปิดออกทั้งประตูและหน้าต่าง ส่วนห้องนักบินก็เจาะด้านคนขับฝั่งขวาออก จะเหมือนของ Hasegawa เลยต้องเพิ่มเติมให้ห้องนักบินดูมีอะไรขึ้นหน่อย เสียดายที่ Console กลางไม่มีรายละเอียดอะไรมาให้เลย สิ่งที่ทั้งสองค่ายไม่มีให้มา คือกระจกมองข้างของทั้งสองนักบิน เลยดัดแปลงจาก Jigsaw puzzle 3D ที่พอหาได้จากห้องเก็บของ แต่ติดยากเพราะกรอบกระจกหน้าจะโค้งนิดๆ ไม่ได้ระนาบเรียบตรงๆ
แผงที่ให้มาชิ้นส่วนเหลือเยอะพอสมควร เหมือนใช้แผง runner ร่วมกับรุ่นกู้ภัยและมีจรวด Penguin และปืนกลให้มาด้วย เสียดายแค่ ถังน้ำมันภายนอกแบบสั้น ที่ต้องติดที่ด้านขวาข้างที่มีประตูเลื่อน ไม่ได้ให้มา กลังคิดอยู่ว่าจะแกะทำ Mold จากอันใดอันนึงของสองอันที่มีมาดีไหมอยู่เลย ที่ให้มาเองก็ ครีบด้านหลัง ทำมุมแบนมากเกิน ไม่เหมือนของจริง ที่จะทำมุมกันเกือบ40-45องศา เลยตัดแต่งออกมาไว้ละ แต่แปลกที่ติดกาวฝาส้มไม่ค่อยยึดอยู่เลย
https://www.airport-data.com/aircraft/photo/000156851.html อันนี้เป็นข้อมูลเครื่องจริงสำหรับอ้างอิง credit ตาม link เลยครับ จริงๆก็เกือบตัดใจเอาไปทำสีเหลืองละแต่ดุยุ่งยากเรื่อง decal ไปอีกเลยทำตรงกะใบต่อแหละ
แปะเทปกาว มัดยางหลวมๆ ประกอบดูรูปร่างรูปทรงและขนาดดูแล้ว ออกมาถูกใจมาก แต่ก็มีข้อโน่นนี่ที่ต้องเจอและต้องแก้ไขแน่ๆ
บันไดขึ้นห้องนักบิน ปรากฏว่าหักไปด้านนึงเลย เพราะเล็กมาก ขนาดว่ายังไม่ได้ลงตะไบ/ขัดกระดาษทรายน้ำเก็บตะเข็บเลย อีกอันเลยตัดด้วยความระมัดระวังมาก
จรวด penquin ที่ให้มาเกิน ที่สามารถเลือกติดครีบทั้งสี่แบบพับได้ด้วย ส่วนเดือยเล็กๆที่ข้อพับของ ล้อหลัง นั่น เกือบเฉือนทิ้งออก ตัดแต่งไปละ ดีว่าทำข้อมูลแล้วเจอพอดี ไม่งั้นละเศร้าแน่ๆ ส่วนชิ้นด้านขวาเป็นแกนรองก่อนกระแทกแพนหางแนวนอนด้านท้ายหมุดสี่ตัวก็ห้ามไปเฉือนออกแหละ
HobbyBoss มีเพิ่มเติมส่วน Cabin ฝ้าของห้องโดยสารภายในแต่ไม่ได้ละเอียดอะไรมากเท่าที่ควร
ส่วนห้องนักบินก็เจาะด้านคนขับฝั่งขวาออก จะเหมือนของ Hasegawa หลังพ่นเสร็จใจหายวาบเลย เพราะด้านหน้าเทปกาวเผยอ ส่วนด้านในลืมแปะตรงกลางกระจกเลยสีดำพ่นติดแต่เอา Thinner ขัดออกแล้วยังพอใสอยู่บ้าง
มีที่นั่งให้เลือกติด แต่ก็ติดไปตามใบต่อไม่ได้ปรับที่นั่งอะไร ส่วน hovercraft ข้างๆเลยได้พ่นไปด้วยกัน
หลุมล้อก็โบ๋/ผนังด้านใน นรกมาก แต่ก็เตรียมการไว้ละ
มุมจากด้านในจะเห็นชัดเจนเลย หลุมสองด้านเลยเอากระดาษแปะรอไว้ทั้งสองด้านก่อนเพราะมันเป็นระนาบโค้ง
ประตูห้องนักบินด้านขวาตัดออกเตรียมทำรายละเอียดตามรูปอ้างอิง
เห็นอนาคตเล็กน้อย กับการประกบชิ้นทั้งสองด้านของลำตัว เกยสูงด้านต่ำด้านแน่นอน
กระจกหน้าเผลอ ไม่ลงตัวแต่คงไม่อุดเพิ่มอะไรละ งานงอกแน่นอน
ตรงประตูเลื่อนได้มือจับจากเก้าอี้ส่วนที่ไม่ได้ใช้ มาติดเสริมตามตำแหน่งให้ใกล้เคียงของจริง
Cabin ที่นั่งด้านในมุมที่หนึ่งและจุดที่เจาะ STEP สำหรับปืนข้างลำตัวด้านนอกทั้งสองด้าน
Cabin ที่นั่งด้านในมุมที่สองและแผ่น plastic บางๆที่เอามาเสริมภายในให้กับจุดที่เจาะไว้ด้านนอกทั้งสองด้าน
อีกหนึ่งมุมแนวนอน และตำแหน่งติดตั้งถังเชื้อเพลิงภายนอกที่ทำสีดำด้านไปด้วย
เพิ่มเติม RACK อุปกรณ์วิทยุหลังนักบินฝั่งขวาและที่วางอุปกรณ์กู้ชีพที่มุมด้านในของฝั่งประตูเลื่อน เก้าอี้ส้มใช้ทาแล้วไม่ค่อนเรียบและดันแววไม่ด้านซะอีกเลยเอาแดงด้าน XF-7 ของ Tamiya ทาทับอีกที
แผ่นปิดครอบห้องนักบิน ไม่ต่อยตรงตามข้อมูลเลยต้องดัดแปลงทำครอบปิดเสริมเข้าไปใหม่
ตอนลองครั้งแรกมันไม่มีเส้นนูนๆที่ต้องเพิ่ม เลยไม่ติดขัดอะไร
หลังภายในเสร็จ เริ่มติดกาว แปลกๆกับกาวฝาส้มมาก ที่มันไม่ค่อยติด/ทำละลายกับเนื้อ plastic ของ HobbyBoss เอาซะเลย
หลังจากนั้นต้องใช้กาวฝาขาวลงใหม่แทนและมัดยางแบบแน่นขึ้นเพื่อให้มันประกบติด ทิ้งข้างวันเอาไว้
หลังจากการเอายางมัดนี่ ทำสิ่งเลวร้ายเอามากๆเลย แต่จำเป็น เพราะมันประกบไม่สนิทน่าจะเพราะแผ่นที่แปะเสริมมันไปเกยกับชิ้น cabin เดิมอยู่นิดนึง
รอยประกบจากชิ้นงานสองข้าง ที่งาน Scale model คงต้องเจอกันแทบทุกชิ้นงาน และอุดขัดแบบฉุกเฉินไปเพราะเครื่องไม้เครื่องมือมีไม่ครบครัน
ขัดได้เป็นบ่งจุดที่พอให้ดูไม่เห็นรอยประกบ แต่เนื่องจาก 1/72 และมันมีซอกหลืบในหลายจุดเยอะ เลยขัดอันนึงดันไปขูดอีกด้าน อ่วมเหมือนกัน แถมด้วยเรื่องที่คนทำ Scale model จะรู้คือ ร่องหายหมด
แอบวางเทียบขนาดกับอีกลำที่เตรียมไว้คราถัดๆไป
มุมใต้ลำตัวด้านซ้าย ดูใต้ซุ้มล้ออุดปิดไว้เรียบร้อยดี และที่บอกไว้ด้านบน ยางที่มัด มันไปโดนกะส่วนที่ติดไว้ก่อนๆหน้าเลยหักกราวไป ต้องมาติดใหม่หลายจุดเลย ส่วนแกนพร้อม Cable จะเปลี่ยนมาใช้เป็นแท่งทองเหลืองเล็กๆแทนละ
มุมใต้ลำตัวอีกด้าน ดูใต้ซุ้มล้อปิดที่ต้องเสริมด้วยแผ่น Plastic บางๆเหมือนที่แปะไว้ด้านใน ได้ผลออกมา OK
ของ HobbyBoss ดีตรง สามารถติดแพนหางแนวนอนแบบไม่ต้องติดกาวแต่ต้องเจาะร่องที่เค้าทำเตรียมไว้นิดหน่อยให้เหลือแต่แกน บางทีอาจให้ไว้เพื่อไว้ปรับพับขึ้น/ลงได้มั๊ง
แต่เนื่องจากแกนมันเป็นแค่ plastic บางๆตอนยัดเข้าไปมันฝืดที่มุมนอก ผลเลยย้วยๆแต่หาวัสดุผลักมันเข้าไปนิดหน่อยก้พอได้อยู่
วันนี้ยังดูอยู่ว่าถ้าไม่ติดอะไร อาจเอามาปิดด้านในแล้วพ่นสีพื้นลำตัวขาวอยุ่แหละครับ ได้ผลยังไง Update รอบหน้าจะมาเพิ่มเติมครับ
งานแรกของปีนี้ก็จัดของแรงๆไปเลยละกัน
MGEX Strike Freedom
แพลนทำสีตัวนี้ยังไม่สรุปแน่นอ
ใจนึังจะทำเงาแบบ MB ตัวแรก อีกใจนึงอยากให้โครงด้านและเกราะเงา
เมื่อวานมีเวลานิดหน่อยเลยทำการเทสสี ที่จะพ่นก่อน
เทสสีก่อนพ่นMGEX Strike Freedom
ชิ้นเทสทุกอันพ่นบนสีดำเงา
สีเมทาลิคผสมด้วย T09 Gaia
เปรียบเทียบสี
สว่าน Gaia Star Bright Gold
ช้อน 1 Volks KoG Gold และพ่นทับด้วย Gaia Pearl Gold
ช้อน 2 Volks KoG Gold
ช้อน 3 Gaia Star Bright Brass
ภาพ2
ชิ้นงานที่เป็นตะเข็บ ขัดตะเข็บออก แล้วพ่นแบบช้อนที่1
ภาพ3
เทียบสี Super Copper ของ Mr.color กับแผงCopper Gold
ภาพ4
เทียบสี ช้อน1 กับแผง Yellow gold
ปัญหาที่พบหลังเทสรอบนี้คือ
Real Gold ของไกอาพอเปลี่ยนทินเนอร์มาผสมตัว Smooth ของ Raditz แล้วตัวสีมีปัญหาคือกัดหน้าสีชั้นก่อนหน้า ไม่แน่ใจว่าเกิดเพราะชั้นสียังไม่แห้งดีหรือไม่
ไว้ต้องโอกาศเทสใหม่
รอบนี้เลยขุด Hazegawa VF-1J 1/48 เป็นโมเดลขนาด 1/48 Macross ลำแรกที่ Hazegawa ทำออกมาขาย
เปิดกล่องออกมา มันช่างใหญ่เต็มไม้เต็มมือดีแท้ เข้าใจว่าจะไม่ทรมานสายตา
แต่ไม่เลยครับ ด้วยสเกลใหญ่ รายละเอียดก็เพิ่มขึ้น
ผ่านไปวันแรก เล็งแล้วเล็งอีก แต้มแล้วลบอีก ปวดตาดีแท้ แต่สนุกจริงๆ
เก้าอี้นักบิน ขอเก็บงานเท่านี้แล้วกันครับ พอเอานักบินมาวางบังเก้าอี้เกือบมิด
ถนอมแรง ถนอมสายตาไว้เพ้นท์นักบินดีกว่า
จบงานวันแรก ได้เท่านี้ล่ะครับ
ปล. ดองนานไปหน่อย ดีคอลเริ่มกรอบ mark setter mark softer ช่วยได้ระดับนึงครับ
ของานหยาบ ตรงไหนลอก แต้มสีเอาแล้วกันครับ
ปล2 เพิ่งทำ ข่าไก่ คู่อริมาครอสเสร็จ เดี๋ยวมีโอกาส ถ่ายรูป เอามาลงให้ชมครับ
https://www.hlj.com/1-72-scale-desert-babes-limited-edition-edu2137
น่าลองเหมือนกันนะครับกะค่าย Eduard ที่ปกติจะทำแค่ DetailsUp Parts
ใน Cockpit นี่รายละเอียดยิบย่อยเลย
ทั้งๆที่ Scale แค่ 1/72 ถ้าทำแบบปิดก็ดีตรง ไม่ต้องกังวลถ้าห้องเลี่ยงเรื่องฝุ่นไม่ได้ แต่รายละเอียดซะขนาดนี้ ไม่เปิดโชว์ของก็ดูน่าเสียดายไปเลย
ที่บ้านเป็นตู้ IKEA ทั้งหมด รุ่นมาตรฐานที่ว่านี้ ขอบ/ตรงบานเปิดมันมี GAP และมีฝุ่นเข้าไปสะสม พอหลายๆปีนี่ ต้องหยิบทุกตัวออกมาทำความสะอาดกันที เป็นวัน/หลายวันก็มี
https://www.youtube.com/watch?v=KPv0AhOLTfo
Base kit มาจาก Revell ก้ไม่เลวนะครับ ถ้าเค้าพ่วงตัวสวยๆกะผลิตภัณฑ์งานหลักของเค้ามาด้วยเลย (Photo Etch) ที่บางทีหาสั่งทีหลังยากถ้าขาดตลาด
ก็เห็นหลายๆค่าย มีทำในแนวนี้ออกมาบ้างอยู่ เดี๋ยวนี้เอื้ออำนวยขึ้นมากเลยครับ
ส่วนตัวว่าเอามาสมมติเป็นศัตรูของ F-14 รึ F-18 จะทัดเทียม/เสมอชั้นกว่า F-5 ตกรุ่นกว่าแหละครับ (แต่จะกลายเป็น F-14จะตกรุ่นแทน)
ปล.
เชื่อว่าสินค้า Macross ดีๆคงทยอยออกตามมาอีกเยอะหลังข้อตกลงทางกฎหมาย ลงตัวทุกฝ่าย
คุณ Marasai นี่เจ็บหนักกับHiMetal เหมือนกันนะครับเนี่ย
ช่วงนี้หนัง TOPGUN ฉายแล้ว F/A-18E ขายดีของขาดตลาดตามคาดครับ
มิน่าช่วงนี้โม F-18 ยากที่จะเล็งไว้จริงๆเลยครับ ตามกระแสหนังเลย
ขอให้ออกใหม่ แต่ขอขนาดใหญ่และไม่ PreBandaiทีเถอะ