[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=SqjwM7nteVU[/youtube]
-นี่เป็นความเห็นส่วนตัวเท่านั้น เป็นความเห็นแค่คนเดียว อย่าเชื่ออะไรมาก ควรหารีวิวอื่นๆประกอบการตัดสินใจ
ORB-01 Akatsuki
1/100 MG?
Dragon momogo
ราคาตามแต่ร้าน
ใบต่อ เปิดเพื่อดูรูปใหญ่
ใบต่อเป้นภาษาจีน อังกฤษ
ส่วนเรื่องการแปลนี่....... กุเกิ้ลทืรานสเลทแพ้แล้ว!!!
เทียบไซส์กล่อง ใหญ่พอสมควร
ข้างใน 32 แผง แน่นอัดกันพอสมควร
ว่าที่เรื่องผิวกับการพ่นสีบ้าง
http://i2.photobucket.com/albums/y19/narokiarzel/review/mmakatsuki/05.jpghttp://i2.photobucket.com/albums/y19/narokiarzel/review/mmakatsuki/06.jpghttp://i2.photobucket.com/albums/y19/narokiarzel/review/mmakatsuki/07.jpghttp://i2.photobucket.com/albums/y19/narokiarzel/review/mmakatsuki/08.jpghttp://i2.photobucket.com/albums/y19/narokiarzel/review/mmakatsuki/09-01.jpghttp://i2.photobucket.com/albums/y19/narokiarzel/review/mmakatsuki/09-09.jpghttp://i2.photobucket.com/albums/y19/narokiarzel/review/mmakatsuki/11-01.jpgสีหรับสีทอง รวมๆผิวค่อนข้างโอเคดี
สีทองสวยพอสมควร แต่เรื่องผิวดูมันไม่ได้เรียบเท่าของลุงบัน เลยดูไม่ได้เงาเท่า แต่รวมๆเรื่องการพ่นสีและผิวค่อนข้างรับได้
ผิวของส่วนที่ทำใหม่ ค่อนข้างเรียบดี แต่ส่วนที่ใช้แผงเดิมของสไตร์คเก่า จะเห็นได้ชัดว่าสากกว่าชาวบ้าน
และแน่นอตามประสาโมจีน มีรอยฝุ่นบ้าง เม็ดสีกระเด็นมั่งบางจุด
http://i2.photobucket.com/albums/y19/narokiarzel/review/mmakatsuki/09-03.jpghttp://i2.photobucket.com/albums/y19/narokiarzel/review/mmakatsuki/09-05.jpgส่วนอื่นที่ไม่ใช่ส่วนที่พ่นสี ผิวสากบางจุด แต่ไม่ได้เป้นทุกจุด
แต่ที่น่าประทับใจคือพวกโมจีน ธรรมดาจุดอ่อนของพวกดีเทลจะอยู่ที่จุดสันมุมต่างๆ ที่ไม่ค่อยคมนักถ้าเทียบกับโมโท้
แต่มารอบนี้รู้สึกดีเทลจะคมดีกว่าตะก่อน
แต่เรื่องรอยผิวหรือดีเทลตามจุดตะเข็บ พอไปได้ แต่พวกตามตะเข็บจะเกรดตกเป็นเรื่องปรกติ
แผงใส ใสสะอาดไม่มีฝองอากาศ
http://i2.photobucket.com/albums/y19/narokiarzel/review/mmakatsuki/09-07.jpghttp://i2.photobucket.com/albums/y19/narokiarzel/review/mmakatsuki/11-02.jpgนิ้ว ให้มาทั้งแบบขยับได้แบบเก่าของสไตร์ค หรือนิ้วก็อบของ HD Part ของลุงบันได ซึ่งก็อบแถมมาให้
ซึ่งนิ้วขยับได้ ค่อนข้างแย่ เหมือนจะแย่หนักกว่าเดิมอีก รอบนี้บิดนิ้วรอบเดียวแกนนิ้วโคนแขนก็ฉีกไปเลย
สงสัยเพื่อตัดปัญหา แถมนิ้วกำตายไปเลย ง่ายดี
ทำแบบดี้แต่แรกก็จบแล้ว
สำหรับเรื่องอันเดอร์เกท กับแผลการตัด
ตัวโมปรกติจะทำอันเดอร์เกทเพื่อหลบรอยตัดมาให้ แต่ไม่ได้ช่วยทุกจุด คือเน้นการ Production เป็นหลัก จุดใหนหลบไม่ได้ก็ไม่หลบให้
ตาให้มาสองแบบ พลาสติกใสกับสีแดง
ตาติดสติกเกอร์เอา
http://i2.photobucket.com/albums/y19/narokiarzel/review/mmakatsuki/10-03.jpgสำหรับตัวนี้ ผมโดนล็อตหลุด QC อีกแล้ว (รอบที่แล้วก็โดนมาทีละ)
คือ แผงทั้งแผง 1 แผง มีรอยน้ำมันมันทั้งแผง แล้วก็เป็นรอยใหล รอยย่นตามผิว
ยังดีเป็นแค่แผงโครงใน หลังประกอบไปแล้วไม่ค่อยเห็นมากนัก
แต่ใครชอบคิดว่าเอาสเปรย์พ่นแผงสดๆได้ อย่าใว้ใจมาก ตอนนู๊นเคยต่อของ MC ก็เคยคันเพราะน้ำมันบนผิวโมมาแล้ว
ซึ่งรอบนี้เป็นประสบการณ์ใหม่จริงๆ พอจะเคยเจอน้ำมันเครื่องติดค้างบนแผง มารอบนี้เจอน้ำมันชอบ + ย่นทั้งแผง
ต้องเอาอแผงไม่แช่น้ำยาล้างจาน ล้างคราบน้ำมันเอา ไม่งั้นต่อไม่ใหวเลย แต่รอยย่นตามผิวนี่คงต้องอุดขัดเอา เพราะเป้นริ้วลึกมาก
ตามประสาโมจีน แผงหาย หล่อไม่ครบ เคยเจอมาหมดแล้ว รอบนี้รอบแรก ตามประสาโมจีนเจออะไรแปลกๆเยอะดี
ยังดีพี่จีนยังไม่เคยเอาตังไปก่อนแล้วชิ่งหนีหายปล่อยให้คนจ่ายตังพรีไปต้องรอมา2-3ปี แบบโปรเจค Kickstarter บางอัน
เกราะบ่า กับเกราะหลังขา อันนี้หลุดง่าย
เกราะหลังขานี่เรียกว่าแค่กระคองเฉยๆมากกว่า ขยับหรือจับยังไงก็หลุด
ทางที่ดี 2 จุดนี้ ติดกาวบางๆเอาดีกว่า เพราะหลุดง่ายและแน่นอน
สำหรับจุดอ่อน สำหรับโมตัวนี้ยังคงเดิม คือข้อจอยย์ตรงตาตุ่ม หลวมและหลุดง่าย
ส่วนตัวแกนบอลผมอัดกาวเอา
มาตรฐานพี่แกยังคงเส้นคงวาไม่เปลี่ยนแปลง
การล็อคดรากุน ใช้สลักรุปสี่เหลี่ยม
ดรากุนถอดได้ทุกอัน
สำหรับการประกอบนั้น เรียกว่าปรกติแน่น
บางจุดต้องลองกดๆดูนิดหน่อย ถ้ายัดไม่เข้าต้องแกะออกมาตัดเดือยไปก่อนไม่งั้นยัดไม่เข้า
ยิ่งแผงแบคแพคนี่ต้องตัดทุกแผงจริงๆไม่งั้นกดไม่ลง แกะไม่ออก
และอย่าคิดว่าจะเป็นเพราะสีที่พ่นทำให้แกนมันแน่นละ ส่วนที่ไม่ได้พ่นสี หรือพลาสติกธรรมดามันก็ยังแน่น......
ข้อหมุนที่แกนขา กับข้อแขน ผมทากาวที่แกนไปหน่อยนะ เพื่อให้แน่นขึ้น
เพราะที่เป้ามีกลไกเลื่อนแกนลงวได้ แต่ตรงนี้มันอ่อนไป เวลาดึงขาเพื่อเลื่อนแกน มันจะกลายเป็นขาหลุดแทน
บีมเซเบอร์ อันนี้ฮาดี ข้่างนึงแน่น ข้างนึงวหลุดง่าย ลองต่อดูเอง แต่ถ้ายัดไม่ลงอย่าฝืน โอกาศแตกสูง
การต่อ คลิกเพื่อดูรูปใหญ่
หัว
ต่อแบบงงๆ คือหมวกถ้ากดไม่ดี หน้ากากจะเด้งออกมานอกหมวกเลย กว่าจะจับเข้าที่เข้าทางได้
ครีบที่หู ต้องเอามาเหลาครีบออก ไม่งั้ยยัดไม่สุด
บอดี้ โครงเดิมของสไตร์คเลย
กระโปรง ไม่มีอะไรมาก
เอวใช้บอลจอยย์ กระโปรงหน้ากลไกเดียวกับสไตร์ค เป้าเลื่อนได้ กระโปรงข้าง ตรงที่หมุนติดเซเบอร์ยัดไม่เข้า ต้องเหลาแกนให้เล็กลงถึงยัดเข้าได้
แขน กลไกเดิมของสไตร์ค ไม่มีอะไรมาก นอกจากเกราะใหล่ที่แปะด้านบนสุดหลุดง่าย เพราะเดือยล็อคมันแทบไม่มี
ขา แกนในเดิมของไสตร์ค
มีเกราะด้านหลังที่หลุดง่าย เพราะที่ล็อคไม่มี และตาตุ่มหลุดและหลวมไปนิด
ส่วนต้นขา ถ้าไม่อัดกาวให้แน่นขึ้น เวลาดึงขาเพื่อเพิ่มุมขยับจะหลุดแทนตลอด
แบคแพค โอโทริ
หลักๆคือเรื่องเดือย แน่นมากต้องหั่นเดือยทำฟันเฉียงกันก่อน ส่วนมากต้องเฉือนเดือยทั้งตัวไม่งั้นกดแล้วชิ้นส่วนจะแนบไม่สนิท เพราะมันแน่นบัดซบมาก
ดรากุน เหมือนเดิมคือถ้าไม่เฉือยเดือยให้ทำฟันซี่แหลมก่อนไม่งั้นกดไม่สุด
แต่ข้อควรระวังคือ ถ้าหั่นมากไปจนมันหลวม การล็อคดรากุนจะทำได้ไม่ดี คือยัดดรากุนไปแล้วชิ้นส่วนหลุด อันนี้จะลำบาก
ก่อนหั่นและเฉือนเดือยเพื่อช่วยการประกอบ ควรพิจารณาความเสี่ยงด้วย
ต่อเป็นตัวบ้าง
การต่อเหนื่อยพอสมควร เพราะชิ้นส่วนเยอะ และอัดเดอร์เกทซะมากทำให้ต้องหั่นๆเฉือนๆกันหลายรอบ รวมๆเวลาต่อล่อไปซะ 3-4 ชั่วโมงเลยมั๊ง
การต่อ ตัวหุ่นไม่ยากเท่าใหร่ แผงโครงในใช้ของสไตร์คเก่าปัญหาน้อย
หลักๆ ความเหนื่อยจะไปอยู่ที่แบคแพคนี่แหล่ะ ต้องตะบันหั่นแกนเหลือแกนให้บางลงตลอดไม่งั้นยัดไม่เข้า
ตัวบอดี้มีบางจุดเหมือนกัน เช่น บ่า ที่ถ้าไม่หั่นแกนไปก่อนแล้วยัดลำบาก หรือยัดไม่เข้า อันนี้ลองดูเอาเอง แต่แบคแพคนี่แกนเฉือนเอาล่วงหน้าเลยไม่ต้องลองมันแล้วเป็นแทบทุกจุด ส่วนที่ไม่ได้พ่นสียังแน่นจนกดไม่ลงเลย
เรื่องสี สวยดีนะ แต่ผิวมันไม่ได้เรียบสนิทแบบลุงบันไดอ่ะ แต่ก็ถือว่าต่อดิบมาแล้วสวยโอเคดี
ที่เหลือก็ตามที่บ่นๆกันไปตอนประกอบ ปัญหาจุกจิกมีบ้างประปราย แต่ส่วนมากไม่ใช่ปัญหาหนักไปถึงโครงสร้าง
เรื่อง QC ก็ทำใจ เจอกันมาหลายรอบละนะ เจอมาเกือบทุกรุปแบบ 555
มุมต่างๆ
ตัวแบคแพค ถ้าวางเท้าดีๆก็พอยืนได้
แต่ถ้าวางไม่ดี ก็ล้ม
ซูมดีเทล
ตรงตา ใช้สติกเกอร์เอา
หลาจุดจะเห็นรอยตัดที่ไม่ได้อันเดอร์เกท
สีส้ม ดูไม่ค่อยเมตาริกเท่าสีทองมากนัก
หน้าดูแล้วนึกถึงป๋าออฟติมัสยังไงไม่รู้
มุมบน รอยผ่ากลางหัวชัดนิดหน่อย แต่ช่างมันเถอะ
โล่
ปืน
ดีเทลที่ขา
ดีเทลแบคแพค
แขนกลของปืนแบคแพค ขยับแล้วหลุดง่าย เพราะบอลจุดขยับมันเป้นคล้ายๆซี่โครง ถ้าขยับไปตรงตรงร่องก็จะหลุดง่าย
ปืน ดีเทลด้านในทำสีเอาเอง
ด้านหลัง
แบคแพค แยกทำเป้นยากได้
กลไกพี่แกเหมือน บิลด์เดอร์พาร์ทของสไตร์คฟูลแพคเกทมากๆ
บีมดาบ ให้มาหลายแบบมาก
ส่วนนิ้ว ใช้ของ HD Builder part
สิ้วนิ้วขยับได้ของพี่แก ผมทำหักไปแล้ว
แบคแพค ในกล่องให้มาสองแบบ
สำหรับจุดขยับ เนื่องจากเกราะบ่าใช้ชิ้นส่วนของสไตร์คเอาดื้อๆ เวลาโยกแขนไปข้างหน้าจะติดเกราะตัวเอง
ในการโยกแขนได้นั้น ต้องถอยเกราะบ่าออกไป หรือพูดง่ายๆคือใส่แกนแขนไม่สุด ไม่งั้นขยับไม่ได้
ซึ่งพอขยับได้ จะมีผลคือเกราะบ่าค่อนข้างโครงเครง ไม่ค่อยมันคงแทน แต่ก็พอรับได้ ดีกว่าขยับบ่าไม่ได้น่ะนะ
เอว ขยับได้ แต่ขยับรอบแรกจะแน่น หลังๆจะปรกติ
ขาตรงแกนสะโพกเลื่อนลงได้
กระโปรงหน้า กลไกก็อบของสไตร์คมา แต่ถ้ายกขาหนักๆจะเด้งหลุด เพราะเกราะมันหนากว่า
มุมแหกขา
ตาตุ่มที่ขายังเป็นจุดอ่อนเหมือนเดิม
ศอกกับเข่า ขยับได้สุด
ขาเวลายกต้องเลื่อนแกนช่วยเอา ไม่งั้นติดกระโปรงตัวเอง
ท่านั่ง
ปีกหุบได้นะ
คอกพิตเปิดได้ แต่ไม่มีฟิกนักบิน
มุมสูง
แอคชั่นมั่ง เริ่มจากบีมไรเฟิล
โล่
ว่าแต่ เกราะพี่แกเคลือบบีมโค้ดติ้งทั้งตัว
แล้วทำไมโล่ โค็ดแค่ตรงขอบๆ ตรงกลางไม่เคลือบ!!??
สำหรัอาวุธ ทั้งดาบและปืน ถ้าไม่เฉือนผนังของส่วนปิดออกไปหน่อย จะติดไม่สนิทนะ
บีมเซเบอร์มั่ง
ดาบ เอาของเฟรมอาร์มมาขยายส่วนเอา ไม่ได้ก็อบมาดื้อๆ
ดาบแบบฟัน
ถือสองมือ
แอคชั่นยาว
เอาดาบมาต่อกันได้
นิ้วแบบแบของ HD part นี่มัน....... ไม่เท่เอาซะเลย
นิ้วแบของบิลเดอร์ TRY พาร์ทสวยกว่านะ
ดาบติดปืนได้ แต่หนักไปหน่อย
เวสเปอร์บ้าง
ตำแหน่งดูมันสูงไปหน่อย
ตำแหน่งกริฟดูมันลึกไปหน่อย คืออยู่แถวรักแร้เลย
ซึ่งนิ้วถือได้มีแค่นิ้วขยับอิสระเท่านั้น เพราะนิ้วแบบอื่นจะมีเดือยล็อคติดอยู่ ทำให้จับไม่ได้
ซึ่งนิ้วขยับได้ของพี่แกไปสวรรค์ก่อนใครเพื่อนเลย เลยต้องถือแถๆเอา
มาว่ากันที่แพค ชิรานุยบ้าง
ตัวแพค หนักกว่าโอโทรินะ
ติดแล้วเหมือนจะยืนยากกว่า เพราะศูนย์ถ่วงมันกระจุกตัวมากกว่า
แต่เรื่องความใหญ่เหมือนจะใหญ่กว่า
มุมต่างๆ
ตัวสแพค สูงและยาวมาก
พาร์ทดรากุน รูปืนแยกสีมาให้นะ
แต่พี่แกผ่ากลางทั้งตัวเลย.....
ผ่ากลางทั้งตัวจริงๆ
ตัวดรากุนมีลูกเล่นจุดขยับนิดหน่อย ซึ่งน่าประทับใจดี
เอนได้ แต่ไม่สุด
แอคชั่นนิดหน่อย
ยิงดรากุนไม่ได้ ก็แอ่นเอานิดหน่อยนี่แหล่ะ
ติดฐานแอคชั่นยาว
Review :
สำหรับตัวโมนั้น กล่องค่อนข้างไม่ใหญ่กว่าที่คิด เอาเข้าจริงๆกล่องมันไซส์ราวๆ สไตร์ค ของโมโมกะ กล่องหน้านั้นน่ะแหล่ะ เพียงแต่ว่า รอบนี้ 2 แพ็คในกล่องเดียว อัดกันเข้าไปได้ เรียกว่าถ้าแกะออกมาเช็คแผงแล้วรู้เลยว่าเหนื่อยแนน่นอน เพราะพี่แกมาตั้ง 30 กว่าแผง
ว่ากันที่เรื่องผิว ตัวโม รวมๆ ค่อนข้างโอเค
เรื่องผิว กับความเรียบ เป็นปัญหาโมจีนปรกติ แต่สำหรับตัวนี้เรื่องผิวของสีทอง ค่อนข้างโอเค สำหรับชิ้นส่วนที่ทำใหม่ ไม่ได้เอามาจากสไตร์คเก่า ผิวจะเรียบกว่าตัวก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด แต่ส่วนใหนไม่ได้พ่นสี.... อาจจะเกรดตกไปบ้างนะ555
เรื่องสีทอง รวมๆค่อนข้างโอเคดี แต่อย่าเอาไปเทียบกับพวกของบันไดอย่างชิกิล่ะ อีกส่วนนึงที่รู้สึกได้คือ ทองของชิกิ2.0 มันเงากว่า และออกเมตาริกกว่า ส่วนนึงเพราะผิวของชิกิมันเรียบกว่าอ่ะแหล่ะ
แต่รวมๆ เรื่องสีทองค่อนข้างโอเค รับได้ แต่ยังไงสู้ทำสีเองไม่ได้หรอกอ่ะนะ
ส่วนเรื่องอันเดอร์เกท อันเดอร์เกทนั้น หลักๆจะทำมาให้ แต่ถ้าส่วนใหนแยกไม่ได้ พี่แกก็จะไม่แยก รวมๆหลายจุดอยู่เหมือนกันที่จะเห็นรอยแผลจากการตัดค่อนข้างชัดเจน
ในส่วนของอันเดอร์เกทนั้น ตรงส่วนบอดี้ค่อนข้างโอเค แต่ตรงแผงแบคแพคนี่แหล่ะ อยากจะเรียกว่าอันเดอร์เวอร์ลเกท เพราะเกทมันทำอันเดอร์มาให้ แต่หนามาก แล้วชิ้นส่วนมันเยอะ ต่อแล้วเหนื่อยมาก ทั้งเอาคีมตัด เอามีดเฉือนเกทซ้ำ
แล้วแบคแพคโอโทริยังพอว่า แต่ชิรานุยนี่พี่แกผ่ากลางทั้งตัว อยากสวยจริงๆยังไงก็ต้องทำสีอ่ะแหล่ะ หน้ากล่องนี่พี่แกอุดขัดเสร็จมาแล้ว
ซึ่งอีกส่วนนึงที่อยากชมนะคือเรื่องดีเทล ตะกอ่นโมจีนจุดอ่อนเรื่องดีเทลคือพวกเส้นเล็กๆ หรือสัน หรือขอบมุม ที่ไม่ค่อยคมเท่าใหร่ มารอบนี้เรื่องความคมเหมือนจะดีขึ้น
การต่อ ในส่วนของบอดี้อาจจะไม่มีอะไรมากนัก
ตัวบอดี้ โครงใน 80% เป็นของสไตรค์คเก่า การต่อไม่มีอะไรมาก
เกราะ อย่า่งที่บ่นไปตอนต้น หลักๆไม่มีอะไรมาก หนักสุดอาจจะเป็นหัว เพราะยัดหน้ากาก วางตำแหน่งลำบาก และครีบที่หู ตรงเดือยต้องเหลาเอาหน่อยถึงจะใส่ได้สุด
ตัวบอดี้ มีหั่นเดือยไม่กี่จุดมั๊ง มีเดือยตรงใหล่ รูหมุนเซเบอร์ขรูดสีออก แค่นั้นเองมั๊ง ที่เหลือต่อได้เรื่อยๆ มีติดตรง เกราะใหล่ด้านบน กับเกราะหลังขา คิดว่ายังไงก็ต้องติดกาวไม่งั้นเอาไม่อยู่
ส่วนที่อัดกาวมีตรงตาตุ่ม ปัญหาและจุดอ่อนเดิมๆของเก่าตั้งแต่สไตร์ค แล้วก็เดือยหมุนแขน แล้วก็เดือยหมุนขา ตรงเดือยหมุนขาจริงไม่ได้อะไรมาก แต่ขยับเล่นไปซักพักแล้วจะรู้สึกได้เองว่า เวลาดึงขาเพื่อเพิ่มจุดขยับนั้นทำได้ยากมาก เพราะแทนที่จะดึงจุดนี้มันดันทำขาหลุดแทนซะนี่
ส่วนแบคแพค ส่วนมากเหลือเดือยกันแทบทุกชิ้นส่วนำหรับส่วนที่ล็อคด้วยแกนแบบมาตรฐาน ซึ่งที่งงงมันไม่ใช่แค่ส่วนที่พ่นสีนี่สิ ส่วนที่ไม่ได้พ่นยังแน่นเลย เอาเป็นว่าลองกดๆดู ถ้ากดไม่ใหวค่อยเหลาแกน มีหลายจุดเหมือนกันที่ถ้าไม่เหลาแกนแล้วยัดลงไม่สุด
อย่างแบคแพค ชิรานุยนี่ เหลาแกนกันแทบทุกจุด ไม่งั้นยัดไม่ลง แต่ถ้าหลวมมากล็อคดรากุนไม่อยู่ซะอีก
รวมๆ การต่อไม่ยาก เหนื่อยๆอาจจะไปอยู่ที่แบคแพคนี่แหล่ะ
อีกจุดคือดาบเซเบอร์ อันนี้ลองเอาเอง ตลกแบบงงๆ
ในส่วนของจุดขยับ ตัวโมจุดขยับมาตรฐานของสไตร์ค แต่จุดอ่อนจะอยู่ที่ตาตุ่มเหมือนเดิม ประกอบกับแบคแพคมันหนัก ทำให้ล้มง่ายถ้าวางตำแหน่งขาไม่ดี
ตัวโมพอยืนได้ แต่ต้องวางเท้าให้ดี แต่ชิรานุยเหมือนจะล้มง่ายกว่านะ
จุดขยับนั้นลอก สไตร์คมาอ่ะแหล่ะ แต่อาจมีติดเกราะในจุดขยับบ้างบางจุด เช่น ใหล่ หรือกระโปรง เพราะก็อบของเก่ามาวางเฉยๆ
ส่วนของลูกเล่นนั้นให้มาครบดี ตัวดาบนั้นเอาของเฟรมอาร์มมาขยายส่วนเอา ไม่ได้ก็อบมาดื้อๆ
ส่วนนิ้วนี่ นิ้วขยับได้ทุกชิ้นยังคงความห่วยเหมือนเดิม หลักๆที่หวังพึ่งได้คงเป็นนิ้ว HD อ่ะแหล่ะ
รวมๆ ปัญหามีจุกจิกบ้าง แต่ไม่ได้อะไรมากแบบแย่ไปถึงโครงสร้าง ปัญหาส่วนมากจะเป็นปัญหาจุกจิกแค่นั้น สีทองพอใช้ได้ แต่อยากสวยจริงๆยังไงก็ต้องทำสีกันเอาเองอ่ะแหล่ะ
Q&A SEC
Q : แบคแพคเอาไปใส่สไตร์คตัวอื่นๆได้ใหม ?
A : ได้ แกนเป็นของสไตร์คแพค
Q : สีทองยังพ่นไม่เท่ากันทั้งตัวอีก ?
A : มีเห็นชัดแค่ดรากุน ที่เหลือมองไม่เห็นหรอก
Q : มือใหม่ต่อได้ใหม ?
A : ได้ แต่เหนื่อย ตัวไม่เท่าใหร่ แต่แบคแพคเหลาแกนทุกชิ้น
Q : มีรอยหล่อพลาสติกเป้นริวๆเหมือนชิกิ 2.0 ใหม ?
A : ไม่ แต่อาจเจอรอยสีกระเซ็นบางนิดหน่อยแล้วแต่ดวง
Q : อันเดอร์เกทไม่สมบูรณ์ ?
A : หลายจุดเลยแหล่ะ
Q : แถม 2 แบคแพคในหล่องเดียว ?
A : อืม
Q : Akatsuki แปลว่าแสงอุษา ?
A : Akatsuki แปลว่าแสงยามเช้าอ่ะแหล่ะ ชิรานุยแปลว่าเทพอัคคี โอโทริก็นกยักษ์มั๊ง?
Q : สีทองๆมันสะท้อนบีมได้ แล้วทำไมที่โล่ตรงกลางไม่เคลือบสีไปด้วย ?
A : ทองหมดมั๊ง........
ข้อดี
1. ราคาถูก ถ้าคำนึงถึงเรื่องพ่นสี และแถมแพคมา 2 แบบ ดีคอลน้ำอีก
2. จุดขยับมาตรฐาน
3. ต่อไม่ยากมาก ถ้าเทียบกับพวก TT อ่ะนะ จริงๆก็พอมีบ้าง แต่ไม่ได้แย่ไปถึงโครงสร้างแบบโมจีนออริจินอลบางค่าย
4. บันไดไม่ออก
5. ดีเทลสวย ดาบแสงสวยดี ดีกว่า HG 1/100 บันไดน่ะนะ
6. พ่นสีทองมาให้ ต่อดิบแล้วพอจะโอเคอยู่บ้าง
ข้อเสีย
1. ปัญหาจุกจิกเยอะพอสมควร เช่น ต้องเหลาเดือย หั่นแกน ติดกาวบางจุด เจอปัญหาเล็กๆเป็นประปราย
2. จุดขยับ ติดๆขัดๆบางจุด เช่นเอว ติดเกราะตัวเอง หรือใหล่ติดเกราะตัวเอง หลักๆเพราะก็อบโครงสร้างสไตร์คมาดื้อๆ
3. ผิวบางจุดหยาบไปหน่อย แต่พวกพ่นทองโอเคนะ แต่ถ้าอยากสวยก็ต้องขัดทำสีแหล่ะเพราะผิวมันไม่ได้เรียบแบบบันได
4. นิ้วแถมแบบขยับทุกข้อ บัดซบมาก
5. ล้มง่ายถ้าวางเท้าไม่ดี
เทียบไซส์บ้าง
ถ้าเทียบกัน ของชิกิจะเงากว่า ส่วนนึงน่าจะเพราะพื้นผิวมันเรียบกว่านี่แหล่ะ เรื่องความเรียบมันมีผลมากๆกับสีเมตาริกอยู่แล้ว
แต่Akatsuki ไม่มีรอยฉีดพลาสติกแบบชิกินะ 555
Praise the sun!!!
รวมๆ ก็โอเคดีนะ
ปัญหาจุกจิกมีบ้าง แต่ไม่ได้หนักหนาอะไรมาก พอไปได้เรื่อยๆ
แต่ราคานี่ ทั้งพ่นสีมาให้ ทั้งแถม 2 แพค ถือว่าค่อนข้างคุ้ม แถมดีคอลน้ำด้วยนะ
แต่เรื่องความเนี๊ยบกับ QC ยังไงก็ยังสู้ลุงไม่ได้อ่ะแหล่ะนะ แต่ความพยายามกับตั้งใจคงทำลุงแกหนาวๆได้มั่งล่ะน่า
ซึ่งส่วนตัว เอาผมรวมสุดท้าย คือถ้าลุงทำ MG เจ้าตัวนี้มาสู้มั่ง ผมว่าลุงก็คงทำดีกว่าน่ะนะ ผิวเรียบกว่า ดีเทลก็น่าจะเยอะกว่า ชั้นเชิงการออกแบบและความเนี๊ยบของบันไดเอาจริงๆยังดีกว่าหลายขุม ซึ่งอย่างเจ้า Akatsuki นี่ดูดีๆจะเห้นว่าหลายส่วนมันเหลี่ยมโป็กกับโล่งไปหน่อย ซึ่งโมบันไดหลังๆการออกแบบมันมีมีชั้นเชิงมากกว่า แต่ติดที่ว่าลุงแกคงไม่ออก แถมออกมาราคาไม่อยากจะคิด พ่นสีทีไรลุงแกคิดแพงตลอด
แต่รวมๆ ส่วนตัวผมชอบนะ ที่ออกโมแข่งกับลุงเนี่ย เหมือนกันมีการแข่งขันกันดี ให้ลูกค้ามีตัวเลือกเยอะๆดี ไม่งั้นเจอการตลาดลุงบันได ออกตัวนี้แต่กั๊กนู่นกั๊กนี่ตลอด
ส่วนเรื่อง QC นี่ตัวใครตัวมัน ........ May the sun guide your way.....
[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=eo0ChRNLgzg[/youtube]
