ผู้เขียน หัวข้อ: ไทยกันดั้ม “คุยเฟื่องเรื่องหนัง”  (อ่าน 241499 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ gon pumjorn

  • Verified User
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 3,234
  • Like: 97
  • เพศ: ชาย
Re: ไทยกันดั้ม “คุยเฟื่องเรื่องหนัง”
« ตอบกลับ #580 เมื่อ: มกราคม 17, 2020, 11:56:04 AM »
ใช่นางเอกจาก HarrtPotterไหมครับเนี่ย เห็นตัวอย่างในโรงแล้วก็น่าระทึกดีนะครับ เสียงมันลุ้นดี แต่จะทำให้ยิ่งไม่กล้าเล่นน้ำเลยน่ะสิเนี่ย

   นางเอกไตรภาค ทไวไลท์ ผีดูเลือด ครับ ผมเองก็ สับสน สองคนนี่ คาเเรคเตอร์เหมือนกันมาก  :icondizzy:

ออฟไลน์ BOY

  • TG STAFF
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 3,919
  • Like: 50
    • ThaiGundam
Re: ไทยกันดั้ม “คุยเฟื่องเรื่องหนัง”
« ตอบกลับ #581 เมื่อ: มกราคม 17, 2020, 12:10:04 PM »
อ๋อ ครับ นี่เขาทำให้คุณgon เกรงกลัในการแสดงของเธอได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย 555

ออฟไลน์ gon pumjorn

  • Verified User
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 3,234
  • Like: 97
  • เพศ: ชาย
Re: ไทยกันดั้ม “คุยเฟื่องเรื่องหนัง”
« ตอบกลับ #582 เมื่อ: มกราคม 17, 2020, 12:18:25 PM »
   ล่าสุดที่เธอเล่นก็ นางฟ้าชาลี เเหละครับ ไม่ใช่เเนวๆที่ผมจะดูเท่าไร  :iconnasty: 

ออฟไลน์ BOY

  • TG STAFF
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 3,919
  • Like: 50
    • ThaiGundam
Re: ไทยกันดั้ม “คุยเฟื่องเรื่องหนัง”
« ตอบกลับ #583 เมื่อ: มกราคม 17, 2020, 12:42:14 PM »
นางฟ้าชาลี มาเร็วไปเร็ว อยู่ไม่นานเท่าไหร่ อย่าง Star War หรือแม่กระทั่ง Parasite บางโรงยังเห็นมีรอบฉายอยู่เลยครับ

ออฟไลน์ gon pumjorn

  • Verified User
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 3,234
  • Like: 97
  • เพศ: ชาย
Re: ไทยกันดั้ม “คุยเฟื่องเรื่องหนัง”
« ตอบกลับ #584 เมื่อ: มกราคม 17, 2020, 01:14:37 PM »
  นางฟ้า ดูจาก เทรลเลอ หนังไม่น่าดูเลย 55

ออฟไลน์ bluewhale

  • TG Reporter
  • ลองพ่นแอร์บรัช
  • *
  • กระทู้: 599
  • Like: 42
Re: ไทยกันดั้ม “คุยเฟื่องเรื่องหนัง”
« ตอบกลับ #585 เมื่อ: มกราคม 17, 2020, 02:17:34 PM »
Parasite กับ Joker กลับมาเข้าโรงอีกครั้งหลังได้รางวัลครับ แต่ช่วงนี้ฝุ่นเยอะ เลิกงานก็อยากกลับบ้านเลย บางวันผมทำงานที่บ้านด้วยซ้ำ

ออฟไลน์ BOY

  • TG STAFF
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 3,919
  • Like: 50
    • ThaiGundam
Re: ไทยกันดั้ม “คุยเฟื่องเรื่องหนัง”
« ตอบกลับ #586 เมื่อ: มกราคม 17, 2020, 04:16:42 PM »
  นางฟ้า ดูจาก เทรลเลอ หนังไม่น่าดูเลย 55


นึกว่าจะมาตีตลาดคนรุ่นใหม่ได้

Parasite กับ Joker กลับมาเข้าโรงอีกครั้งหลังได้รางวัลครับ แต่ช่วงนี้ฝุ่นเยอะ เลิกงานก็อยากกลับบ้านเลย บางวันผมทำงานที่บ้านด้วยซ้ำ

อย่างนี้นี่เอง Jokerนี่เห็นว่าหนังค่อนข้างหนัก ผมเองก็ยังไม่ได้ดูเหมือนกันครับ เล็งๆอยู่แต่พอว่ามันเครียดเลยไม่เอาดีกว่า

เรื่องฝุ่นนี่ฟังแล้วกลุ้ม ดีแล้วครับที่ทำงานจากที่บ้านได้ ไม่ต้องออกไปดมฝุ่นข้างนอก

ออฟไลน์ gon pumjorn

  • Verified User
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 3,234
  • Like: 97
  • เพศ: ชาย
Re: ไทยกันดั้ม “คุยเฟื่องเรื่องหนัง”
« ตอบกลับ #587 เมื่อ: มกราคม 17, 2020, 06:01:31 PM »
  โดยส่วนตัวชอบ ปรสิตมากกว่า โจ๊กเกอร์ ครับ โจกเกอร์หนังหนักอยู่เเต่อารมณ์มันเรียบๆ ทั้งเรื่อง ยังกะดู เเทกซี่ไดรเวอร์ หนังที่เดอ นิโรเล่น สมัยนู้น เด้ะๆเลย

ออฟไลน์ BOY

  • TG STAFF
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 3,919
  • Like: 50
    • ThaiGundam
Re: ไทยกันดั้ม “คุยเฟื่องเรื่องหนัง”
« ตอบกลับ #588 เมื่อ: มกราคม 17, 2020, 07:23:17 PM »
งั้นมีโอกาสจะหาไปนั่งดู Jokerคนเดียวที่โรงหนังครับ

ออฟไลน์ gon pumjorn

  • Verified User
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 3,234
  • Like: 97
  • เพศ: ชาย
Re: ไทยกันดั้ม “คุยเฟื่องเรื่องหนัง”
« ตอบกลับ #589 เมื่อ: มกราคม 18, 2020, 09:40:08 PM »
https://www.youtube.com/watch?v=aVX6G75mY_Y

เคยอ่านหนังสือ ของ JACK LONDON   ไม่คิดว่า FORD จะเล่นด้วย ไม่กล้าคาดหวังเลย เเต่คนรักหมาต้องดูๆ
หนังฉายเดือนหน้าเเล้ว  :iconwish:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 18, 2020, 09:44:27 PM โดย gon pumjorn »

ออฟไลน์ BOY

  • TG STAFF
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 3,919
  • Like: 50
    • ThaiGundam
Re: ไทยกันดั้ม “คุยเฟื่องเรื่องหนัง”
« ตอบกลับ #590 เมื่อ: มกราคม 19, 2020, 08:07:44 AM »
ตอนนี้ติด Series เกาหลีทาง NetFlixเรื่องนี้ครับ

https://youtu.be/eXMjTXL2Vks

ปกติเฉยๆ แต่เรื่องนี้แนวรัก ตลกเบาๆแอบโรแมนติคนิดๆแถมลึกลับซับซ้อนหน่อยๆ นางเอกเกาหลีใต้พลัดไปอยู่เกาหลีเหนือซะงั้น เลยชุลมุนวุ่นวาย ติดกันทั้งบ้านเลย

ออฟไลน์ gon pumjorn

  • Verified User
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 3,234
  • Like: 97
  • เพศ: ชาย
Re: ไทยกันดั้ม “คุยเฟื่องเรื่องหนัง”
« ตอบกลับ #591 เมื่อ: มกราคม 19, 2020, 03:17:43 PM »
   ผมเห็นเเว้บๆ เรื่องนี้คนติดเยอะอยู่ครับ

ออฟไลน์ gon pumjorn

  • Verified User
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 3,234
  • Like: 97
  • เพศ: ชาย
Re: ไทยกันดั้ม “คุยเฟื่องเรื่องหนัง”
« ตอบกลับ #592 เมื่อ: มกราคม 23, 2020, 11:24:54 AM »

  ไม่เห็นจบ ซะที ภาคก่อนจบไง ลืมเเล้วครับ ขอดูทางเนทดีกว่ามั้ง ฉายวันนี้

ออฟไลน์ gon pumjorn

  • Verified User
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 3,234
  • Like: 97
  • เพศ: ชาย
Re: ไทยกันดั้ม “คุยเฟื่องเรื่องหนัง”
« ตอบกลับ #593 เมื่อ: มกราคม 24, 2020, 06:55:27 PM »
IPMAN 4 ดูเเล้วครับ หนังได้อารมณ์คล้ายๆภาคเเรกเลย ถือว่าดูได้เพลินๆ ทำได้ดีกว่าภาค3

ออฟไลน์ BOY

  • TG STAFF
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 3,919
  • Like: 50
    • ThaiGundam
Re: ไทยกันดั้ม “คุยเฟื่องเรื่องหนัง”
« ตอบกลับ #594 เมื่อ: มกราคม 29, 2020, 05:03:35 PM »
ฟังคุณ gon เล่าแล้วอยากไปด฿บ้างเลย แต่จะขอดูตอนแรกก่อนนะครับเดี๋ยว งง

https://youtu.be/90ad-r9WiHM

ออฟไลน์ gon pumjorn

  • Verified User
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 3,234
  • Like: 97
  • เพศ: ชาย
Re: ไทยกันดั้ม “คุยเฟื่องเรื่องหนัง”
« ตอบกลับ #595 เมื่อ: มกราคม 31, 2020, 03:19:26 PM »
 อิปมันเด่นมากครับ ด้านโปรดักชั่น ภาคสุดท้ายนี่ อารมณ์ฉากพรอบประกอบ ยกบรรยากาศยุค 70 มาเต็มๆ
  เสื้อผ้าหน้าผม เนี๊ยบดีกว่าหนังฮอลลีหวูดหลายๆเรื่อง

ตัวหนังนี่อย่าไปคิดมากนะครับ เเค่มันส์ๆ  :iconnasty: ผสม ดราม่านิดๆ

ออฟไลน์ BOY

  • TG STAFF
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 3,919
  • Like: 50
    • ThaiGundam
Re: ไทยกันดั้ม “คุยเฟื่องเรื่องหนัง”
« ตอบกลับ #596 เมื่อ: มกราคม 31, 2020, 04:36:06 PM »
ไปไล่ตามดูภาค 1,2 มาสนุกดีครับ แต่อารมณ์ภาค1 ดูหลากหลายกว่า ไม่กล้าดูภาค3 เพราะคุณgon บอกไม่หนุก

ออฟไลน์ gon pumjorn

  • Verified User
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 3,234
  • Like: 97
  • เพศ: ชาย
Re: ไทยกันดั้ม “คุยเฟื่องเรื่องหนัง”
« ตอบกลับ #597 เมื่อ: มกราคม 31, 2020, 06:54:09 PM »
  ภาค3มันก็พอได้เเหละครับ เเต่ภาค 4 สนุกกว่าเยอะ  กดดันดี เเม้หลายๆเหตุการณ์ดูจงใจไปหบ่อย

ออฟไลน์ gon pumjorn

  • Verified User
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 3,234
  • Like: 97
  • เพศ: ชาย
Re: ไทยกันดั้ม “คุยเฟื่องเรื่องหนัง”
« ตอบกลับ #598 เมื่อ: มกราคม 31, 2020, 07:15:03 PM »
   อันนี้ อ่านเอาสนุกๆครับ ได้มาจาก พันทิป

หย่งชุน เกิดขึ้นในยุคราชวงศ์ชิง หลังจากวัดเส้าหลินถูกเพลิงเผาไหม้จนวอดวาย 5 ปรมาจารย์อาวุโส (五祖) และบรรดาลูกศิษย์ (เช่น หง ซีกวน และ ฟง ไสหยก) ต่างแยกย้ายกระจัดกระจายออกไปตามเส้นทางของตนเอง แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งอุดมการณ์ต้านแมนจูอยู่

แม่ชีอื่อซ่า (อู่เหมย) หนึ่งใน 5 ปรมาจารย์อาวุโส ได้อพยพไปเป็นกบจำศีลบนเขาซ่งซาน และที่นั่นนางได้คิดค้นศิลปะการต่อสู้แบบใหม่ขึ้น ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากการเห็นการต่อสู้ระหว่างนกกระเรียนกับงูเห่า โดยงูได้พยายามโจมตีนกกระเรียนเป็นเส้นตรง แต่นกกระเรียนได้เคลื่อนไหวตัวเองเป็นวงกลม ทำให้งูไม่อาจทำอะไรนกกระเรียนได้ (บางข้อมูลระบุว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างนกกระเรียนกับงู)  นางได้นำเอารูปแบบการต่อสู้แบบนี้มาพัฒนาจนเป็นรูปแบบใหม่ของกังฟูซึ่งแตกต่างจากกังฟูวัดเส้าหลิน 

เหยียน หย่งชุน เป็นสาวงามจากมณฑลกวางตุ้ง ได้อยู่กับบิดาของเธอชื่อ ยิ่มยี หลังมารดาของเธอเสียชีวิตลง เธอได้ถูกหมั้นกับพ่อค้าขายเกลือชาวฮกเกี้ยน ชื่อ เหลียง ปอกเชา ตั่งแต่เยาว์วัย หากแต่บิดาจากการช่วยเหลือผู้อื่น ได้ไปมีคดีกับทางบ้านเมืองจึงต้องหลบหนีพร้อมหย่งชุนไปยังพรมแดนระหว่างมณฑลเสฉวนและยูนนาน อาศัยการขายเต้าหู้ยังชีพ ณ เชิงเขาไทซาน ความงามของเธอได้นำความยุ่งยากมาสู่ตัว เมื่ออันธพาลได้มาชอบพอและมาบังคับเธอให้แต่งงาน ทั้งเธอและบิดาเป็นกังวลอย่างยิ่ง หากแต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีกับสถานการณ์เช่นนี้ จนกระทั่งบิดาเธอเล่าเรื่องความยุ่งยากนี้ให้แม่ชีหวู่เหมยฟัง (อู่เหม่ย) แม่ชีต้องการช่วยเหลือจึงรับหย่งชุ่นเป็นศิษย์และไปอยู่ด้วยบนเขาและสอนวิทยายุทธ์แขนงใหม่นี้ให้เป็นเวลา 3 ปี หลังจากฝึกฝนจน สามารถป้องกันตนเองได้แล้วหยงชุ่นจึงกลับมาหาบิดา เมื่ออันธพาลคนเดิมตามมารังควาน ครั้งนี้หยงชุนไม่ได้หลีกเลี่ยงอีกต่อไป และได้ท้าอันธพาลประลองและเอาสามารถเอาชนะได้ในเวลาอันสั้น

จากนั้นหย่งชุนได้แต่งงานกับ เหลือง ปอกเชา และพยายามจะสอนวิชานี้ให้กับสามีแต่สามีไม่ยอมฝึกเพราะตัวสามีนั้นได้ฝึกฝน มวยเส้าหลินมาอย่างช่ำชองแล้วแต่หย่งชุนก็ได้แสดงฝีมือและได้เอาชนะสามีทุก ครั้ง สุดท้ายสามีจึงยอมเรียนวิชานี้กับภรรยา และจากจุดนี้จึงได้ตั้งชื่อมวยแขนงใหม่นี้ว่า หย่งชุน ตามชื่อภรรยา

ต่อมาเหลียงป๊อกเชาได้สอนวิทยายุทธ์นี้ให้กับ เหลียงล่านไกว เมื่อเหลียงล่านไกวฝึกสำเร็จตัวเขาพยายามปกปิดไม่เผยแพร่วิทยายุทธ์หยงชุนนี้ โดยมีครั้งหนึ่งได้ใช้วิทยายุทธ์นี้เข้าต่อสู้กับกลุ่มนักมวยที่กำลังรุมล้อมนักมวยผู้หนึ่ง เหลียงล่านไกว ได้สอนวิทยายุทธ์หยงชุนให้กับ หว่องหว่าโปวและเหลี่ยงหยี่ไท เมื่อเหลี่ยงหยี่ไทเกือบเข้าสู่วัยชรา ทุกเย็นหลังเลิกงาน

ในขณะฝึกสอน "ฉานหว่าซุน" ได้แอบฝึกมวยหยงชุนโดยมองผ่านเข้ามาตามซอกประตู จนกระทั่งเหลียงจั่นจับได้เหลียงชุนได้ชวนให้ฉานหว่าซุ่นมาประลองกัน ในที่สุดเหลียงจั่นก็ยอมรับและรับฉานหว่าซุนเป็นศิษย์ด้วยอีกคนเหลียงจั่นได้ถ่ายทอดมวยหยงชุนให้กับบุตรชายทั้งสอง คือ "เหลียงชุน" และ "เหลียงปิ๊ก" รวมทั้ง "หมกหยั่นหว่า" (หว่าหุ่นไม้)ผู้มีแขนทั้งสองอันแข็งแรงได้สอนวิชามวยให้กับศิษย์เพียงคนเดียว คือ "เหลียงจั่น"ซึ่งเขาเป็นหมอแผนโบราณชื่อดังแห่งเมืองฝอสาน ในมลฑลกวางตุ้ง ต่อมาเหลียงจั่นได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่งหมัดมวยหยงชุน หรือราชามวยประลองเนื่องจากนักมวยทั่วสารทิศได้มาท้าประลองกับเหลียงจั่นแต่ทุกคนก็ได้พ่ายแพ้ไปรู้สึกชอบพอถูกชะตา จนได้แลกเปลี่ยนวิชากัน หลังจากนั้นทั้งสองได้ดัดแปลงวิชากระบองหกแต้มครึ่งโดยประยุกต์หลักการฟังด้วยสัมผัสจากหมัดหยงชุน หรือ "ชี้เสา"และเรียกการฝึกฝนด้วยกระบองสัมผัสนี้ว่า "ชี้กวัน" (ที่เรียกว่า ชี้เสาคู่ฝึกจะใช้แขนสัมผัสกันตลอดการฝึกฝนโดยต่างฝ่ายจะฟังการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายจากการสัมผัสในขณะที่พยายามปิดป้องและโจมตีในเวลาเดียวกัน โดยใช้วิชามวยหยงชุนในระหว่างการฝึกในการฝึกแขนทั้งสองฝายจะต้องไม่หลุดสัมผัสหรือไม่แยกออกจากกันเลย) "หว่องหว่าโปว" นักแสดงงิ้วแห่งคณะงิ้วเรือแดง และบังเอิญที่ปรมาจารย์ จี้ส่านได้ปลอมตัวเป็นพ่อครัวเข้ามาในคณะงิ้วนี้ด้วย ในเวลานั้นปรมาจารย์จี้ส่านได้สอนลูกศิษย์อยู่จำนวนหนึ่ง และ "เหลี่ยงหยี่ไท" นายคัดท้ายเรือก็คือหนึ่งในจำนวนศิษย์ของเขาเหลี่ยงหยี่ไทได้ฝึกวิชากระบองหกแต้มครึ่งมาจากปรมาจารย์จี้ส่าน เมื่อฉานหว่าซุนฝึกวิชาสำเร็จต่อมาได้รับลูกศิษย์ไว้ทั้งหมด 16 คน ศิษย์คนโตชื่อว่า "หงึงชงโซว"และศิษย์คนสุดท้ายคือ "ยิปมัน"

ฉานหว่าซุนและศิษย์
ฉานหว่าซุนรับลูกศิษย์ทั้งหมดสิบหกคน มีศิษย์คนโตชื่อว่าหงึงชงโซว และศิษย์คนสุดท้ายคืออาจารย์ยิปมัน อาจารย์ยิปมันสะสมเงินเพื่อมาขอเป็นศิษย์อาจารย์ฉานหว่านซุนเมื่อเขาอายุ ได้ประมาณ 11 ปี อาจารย์ฉานหว่าซุนจึงรับยิปมันเป็นลูกศิษย์คนสุดท้ายและสอนยิปมันเป็น เวลา 6 ปีก่อนจะเสียชีวิตหลังจากนั้นยิปมันฝึกฝนต่อภายใต้การชี้นำของศิษย์พี่ใหญ่ หงึงชงโซว ยิปมันได้เข้าศึกษาต่อที่ฮ่องกง ด้วยความคะนองได้ท้าประลองไปทั่วฮ่องกงและความหึกเฮิมมีมากขึ้นเมื่อเขาชนะเสมอ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้พบคนแก่คนหนึ่งซึ่งผู้คนรู้จักกันดีว่ามีความสามารถ ยิบมันแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่าให้กับชายแก่คนนนั้นซึ่งแท้จริงแล้วชายแก่ผู้ นั้นคือ เหลียงปิ๊ก อาจารย์อาบุตรเหลียงจั่น หรือศิษย์น้องของฉานหว่าซุนนั้นเอง ยิปมันหลังจากเรียนจบมัธยมศึกษาตอนปลาย จึงลาอาจารย์กลับเมืองจีน

ยิปมัน และ ศิษยหลังจากที่คอมมิวนิสต์เข้าปฎิวัติประเทศจีน ยิปมันจึงอพยบมาที่ฮ่องกงอีกครั้ง และจึงเริ่มรับลูกศิษย์ทั่วไปมากมายมี ฮอกกิ่นเชียง และอื่นๆ อาจารย์เหล่านี้ได้เผยแพร่มวยหย่งชุนจนมีผู้ฝึกฝนทั่วโลกในบัจจุบันเป็น จำนวนมากมาย

ปล.  ดูจากเพลงมวย เเละประวัติ คิดถึงละครทีวีจีนเรื่องหนึ่ง สองเทพบุตรโลกันตร์ยุควิดีโอผีเฟื่องฟู ไม่รู้นะครับ เห็นออกหมัดสั้นๆคล้ายกัน  น่าจะอันเดียวกันนะ หมัดสั้นที่มีชื่อเสียงสุดเเละคนคิดเป็นผู้หญิง อันนี้ผมมโนเอง  :iconfreak:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 31, 2020, 07:27:39 PM โดย gon pumjorn »

ออฟไลน์ BOY

  • TG STAFF
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 3,919
  • Like: 50
    • ThaiGundam
Re: ไทยกันดั้ม “คุยเฟื่องเรื่องหนัง”
« ตอบกลับ #599 เมื่อ: มกราคม 31, 2020, 07:26:32 PM »
ขอบคุณครับ อ่านกันเพลินเลย

https://youtu.be/2lgFgXT9H-0

นี่ก็น่าดูนะครับ