ผู้เขียน หัวข้อ: เอานิยายกันดั้มแต่งเองมาลงเจ้าค่า  (อ่าน 2943 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sixouthae

  • Verified User
  • มือใหม่หัดต่อ
  • *
  • กระทู้: 11
  • Like: 0
  • เพศ: หญิง
เอานิยายกันดั้มแต่งเองมาลงเจ้าค่า
« เมื่อ: มกราคม 14, 2015, 10:42:13 AM »
แต่งไว้นาน(จนขี้เกียจแต่งละ :iconnasty:) ชื่อเรื่องก็ยังไม่ได้คิด ไม่รู้จะมีใครอ่าไหมน้า  :iconsweat:
ได้ไอเดียมาจากภาคเซต้า กับปิ๊งไอเดียตอนดู ยูนิคอน 3 ในคำพูดที่ว่า

"ทหารอย่างเราก็เป็นได้แค่เฟืองตัวเล็กๆ ที่เคลื่อนไหวเพื่อขับเคลื่อนเครี่องจักรขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า 'สหพันธ์'"
----- Daguza Mackle,EFF's Lieutenant Colonel-----

     พูดถึง "กันดั้ม (Gundan)" หลายท่านคงต้องนึกภาพของหุ่นยนต์ตัวสูงกว่าสิบเมตร มีตาสองตามีเขาบนหน้าผาก หรือนักบินสุดเทพ(หรือเกรียนก็ไม่รู้) ที่มีพลังเหนือล้ำกว่าตัวประกอบตัวอื่น แม้แต่พวกดียวกัน (หรืออะไรก็แล้วแต่ตามใจท่านเลย) ถ้าคิดว่าเรื่องนี้จะมีแบบนั้นละก็ ผิดจร้า เพราะกันดั้มเรื่องนี้จะมีพระเอกเป็นเกรียนแห่งสหพันธ์วิทยา ธรรมด๊า~ธรรมดา ขับหุ่นเบ๊แบบโค_ร Mass Pruduct เลยทีเดียว
     พล่ามมานานขอเข้าเรื่องดีกว่า จากคำเปรยหัวต้นเรื่องนั้นคือตอนหนึ่งใน Gundam UC ep 3 ที่หัวหน้าหน่วย เอคอสพูดกับบานาจนั้น สื่อความหมายว่าแม้พระเอกจะเป็นมนุษย์พันธ์ใหม่ที่เก่งเทพมาจากไหนก็ตาม หากไม่มีเบ๊ก็อ่อนด๋อย เห้ย!! ไม่ใช่ล่ะ  :icondizzy:
     เอาเป็นว่าจบการเวิ่นเว้อไว้แค่นี้ดีกว่า ขอให้ท่านผู้อ่านสนุกกับการอ่านนิยายของข้าน้อยนะ เจ้าคะ

ธีมหลักของเรื่องนี้จะอยู่ในช่วงของ ZETA Gundam นะเจ้าคะ เลยจะขออัพ Timelineที่สแกนมาค่ะ
[จิ้มที่รูปเพื่อให้เห็นชัด]



เริ่มเรื่อง
Prologue : Operation
                3 มกราคม U.C. 0079 ซิดนี ออสเตรเลีย

                ขณะที่ท้องฟ้าถูกวัตถุขนาดยักษ์ปกคลุมปิดบังแสงอาทิตย์จนมือมิดราวกลับเวลากลางคืน เหล่าผู้คนเริ่มวิ่งลนลาน เหล่าทหารหาญที่ขับเครื่องบินระดมยิงใส่วัตถุนั้นอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อหวังว่าสิ่งนั้นจะถูกทำลายลง แต่ไม่เลยวัตถุนั้นยังคงตกลงมาจากท้องฟ้าเรื่อยๆ ใกล้ลงมา...ใกล้ลงมา และในเวลา 15 นาทีต่อมาสิ่งนั้นได้กระทบเข้ากับผืนดินเบื้องล่าง แรงระเบิดมหาศาลที่มากกว่าแฟตบอยที่ฮิโรชิม่ากว่าสามล้านเท่า ส่งผลให้ดินแดนแถบนี้รวมถึงทวิปออสเตรเลียหายไปกว่า 16%

                ภาพข่าวที่แสดงผ่านจอโทรทัศน์นั้นทำให้เด็กชายที่ดูมันอยู่ต้องตกใจ นั่งน้าตาคลอเบ้าอยู่บนเก้าอี้ในบ้านของตน ขณะที่ชายผู้เป็นพ่อต้องกดรีโมตเพื่อปิดภาพนั้นออกไป เขาโยนรีโมตทิ้งก่อนจะเข้าไปโอบกอดลูกชายของตน

                “พ..พ่อครับ..แม่...” คำพูดของเด็กน้อยขาดหายไป ผู้เป็นพ่อต้องกลั้นน้ำตาเพื่อปลอบโยนลูก ภรรยาของเขาบอกว่าจะไปเยี่ยมญาติที่ซิดนี ด้วยภาระหน้าที่ของเขารวมถึงเรื่องการเรียนของลูกทำให้เขาไม่อาจไปด้วยได้ ฉะนั้นเขาจึงไม่อาจไปกับเธอได้ และเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนเธอก็โทรศัพท์มาบอกว่าเธอถึงแล้ว...ตอนนี้เธอไม่อาจกลับมาได้อีกแล้ว

                “Operation British” คือชื่อของแผนการทิ้งโคโลนี่ลงสู่โลกของซีอ้อนเป็นการประกาศสงครามกับสหพันธ์โลกอย่างเป็นทางการและเป็นชนวนของสงครามที่จะยังคงยาวนานอยู่ต่อไป.............................................................................

 

                2 มีนาคม U.C. 0087 วันที่ เอลโก[1] เข้าโจมตี กรีน โนอา ส่วนหนึ่งของโคโลนี่ ไซด์ 7 เพื่อชิงโมบิลสูทโปรโตไทป์ของทิทานส์[2] นับเป็นการประกาศสงครามของทั้งสองฝ่ายอ่างเป็นทางการ เพื่อเอาคืนความอัปยศที่ตนถูกหยาม ทิทานส์จึงจัดกองกำลังเพื่อออกไปไล่ล่าเอลโก

                บนยาน Salamis Kai สังกัดทิทานส์ซึ่งเป็นหนึ่งในกองยานที่ตามมาสมทบหน่วยที่ไล่ตามมา เหล่านักบินเริ่มทยอยกันเข้านั่งประจำโมบิลสูทของตนเอง

                “ชิ คุณพวกกากเดนของซีออนเอ๊ย”

เสียงสถบดังมาจากข้างๆทำให้นักบินคนหนึ่งที่กำลังจะเข้าไปในคอกพิท หันไปมอง ทิศทางของสายตานั้นมีชายในขุดนอร์มัลสูทสีน้ำเงินเช่นเดียวกับตนกำลังลอยตัวมาทางโมบิลสูทสีเขียวที่มีรูปทรงในส่วนต่างโค้งมน เช่นเดียวกับของเขา ‘ไฮแซ็ค’ โมบิลสูทที่ทำปรับปรุงมาจากแซ็คของซีออน เขายิ้มที่มุมปากน้อยๆก่อนจะลอดเข้าไปในคอกพิท

“น่าตลกนะ หน่วยพิเศษที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อไล่ล่าซีออนกลับมาใช้โมบิลสูทของซีออนแบบนี้นะ” อีกเสียงหนึ่งดังเข้ามาพร้อมกับภาพหน้าจอสื่อสารเปิดขึ้น ชายวัยกลางคนในชุดนักบินของทิทานส์ส่งยิ้มมาให้เขาจากจอสื่อสารนั้น “นายก็ว่างั้นไหม ร้อยตรี โอลิเวอร์”

“ไม่ทราบสิครับ ร้อยเอก” เขาตอบปัดไปก่อนจะกดสวิตช์เพื่อปิดแฮตช์ ก่อนที่ภาพในห้องนักบินที่ก่อนนี้มืดมิดไร้แสงไฟเริ่มสว่างขึ้นพร้อมกับภาพทิวทัศน์ภายนอกที่ถูกฉายขึ้นรอบตัว

“เห้ย..เห้ย นายนี่มันน่าเบื่อจริงนะ ช่างเถอะ” ร้อยเอกผู้นนั้นเอามือมาแตะที่หมวกของเขาเพิ่อเปิดหมวกนั้นและตัดการสื่อสารไป พร้อมกับบังคับโมบิลสูทสิเขียวให้เดิมไปที่ช่องปล่อยตัว

“ร้อยตรี โอลิเวอร์  เฟราส์ เตรียมตัวได้ครับ” โอเปอร์เรเตอร์ประจำยามติดต่อเข้ามา

“โรเจอร์” ร้อยตรี โอลิเวอร์  ตอบพร้อมกับพาโมบิลสูทของเขาเดินไปตามทางเดินของ โมบิลสูทเด็ค[3]

ว่าด้วยเรื่องกำลังหลักของทิทานส์แล้ว ส่วนใหญ่จะมีโมบิลสูทรุ่นใหม่ประจำการอยู่สองรุ่นได้แก่ จิมเคล โมบิลสูทกำลังหลักของทีทานส์เป็นรุ่นที่ปรับปรุงมาจากจิมรุ่นคัสตอมที่ผลิตในช่วงหลังสงครามหนึ่งปีโดยปรับปรุงระบบภายในให้ดีขึ้น ทำให้มีความสามารถในการรบมากกว่าเดิมหลายเท่า กับไฮแซ็คที่ปรับปรุงมาจากแซ็ครุ่น F2 ของซีออนในช่วงท้ายของสงครามหนึ่งปี พัฒนาโดยทีมวิศวกรของซิโอนิคเทคโนโลยีที่มาเข้าร่วมกับสหพันธ์ โมบิลสูทใหม่ทั้งสองรุ่นนี้จึงถูกนำมาประจำการในกองทัพสหพันธ์ซึ่งรวมถึงทิทานส์ด้วย

“ร้อยตรี โอลิเวอร์  เฟราส์ ออกตัว!!” สิ้นเสียงของโอลิเวอร์ ไฮแซ็คก็ถูกดีดออกไปนอกยานด้วยแรงส่งจากคาตาเพลาท์ปล่อยตัวที่อาศัยแรงแม่เหล็กไฟฟ้าในการดีดเพื่อส่งโมบิลสูทไปยังสนามรบ

แรงจีกดทับมาที่ร่างของเขาแม้ชุดนอร์มัลสูทจะมีระบบประความดันและที่ตัวโมบิลสูทเองก็มีระบบลดแรงจีอยู่ แต่เหมือนว่ามันจะช่วยไม่ได้มากนัก เขารู้สึกเหมือตาจะถลนออกมาจากเบ้าและของที่อยู่ในกระเพาะเริ่มดันขึ้นมา

“ให้ตายสิพับผ่า กี่ทีถึงจะชินนะ” เขาบ่นกับตัวเองขณะที่ฝืนกลืนสิ่งที่ติดอยู่ตรงช่วงคอเข้าไปในกระเพาะที่มันมา เบื้องหน้ายังไม่มีแสงจาการรบซึ่งนับว่าแปลกมาก เขารีบใช้แรงของไฮแซ็คในการเคลื่อนที่เพื่อไปรวมตัวกับคนในหน่วยที่ออกตัวมาก่อนเขา

“เจรจา!?”

“ใช่ เห็นว่าพันเอาบาตส์เป็นคนสั่งมาน่ะ ได้ยินว่าตอนนี้กำลังส่งคนออกไปเจรจาอยู่”

ตัวของโอลิเวอร์งงงันกับสิ่งที่เขาได้รับรู้มา ไม่น่าเชื่อว่าหน่วยที่เด็ดขาดในการปราบปรามอย่างทิทานส์จะขอเจรจากับเอลโก

‘น่าแปลก บอกว่าจะเจรจาแต่ให้ตรึงกำลังไว้...ผู้การท่านคงมีแผนสินะ’ร้อยตรี โอลิเวอร์ คิดไปพลางเอื้อมมือจะเกาคางตามนิสัยของตนแต่ก็แตะได้เพียงหมวกนักบินเย็นเฉียบ เลยนึกขึ้นมาได้ว่าใส่มันอยู่เขาจึงเปิดคอบแก้วที่ปิดบังใบหน้าออกแล้วเอี้ยวตัวไปหยิบการแฟบรรจุกาแฟบรรจุหลอดสุญญากาศมาดูดเพื่อผ่อนคลาย ยังไม่ทันได้กัดหลอดก็พลันเกิดแสงไฟขึ้นไกลๆ ‘เริ่มแล้วเรอะ!’ เขาโยนหลอดกาแฟทิ้งไป แล้วปิดครอบแก้วของหมวกลง

“มีสัญญาณแจ้งมาว่าเกิดการรบแล้ว ให้ทุกนายเคลื่อนที่ได้”

เสียงสั่งของหัวหน้าดังเข้ามาพร้อมกับหน้าจอสื่อสารของทุกเครื่องเปิดขึ้น

“ระดับการรบสีแดง ฝ่ายนั้นมียานรบด้วย ให้ใช้สัญญาณเลเซอร์ในการสื่อสาร และใช้เท่าที่จำเป็น รับทราบ?”

“โรเจอร์!!”

ร้อยตรี โอลิเวอร์ ตอบรับพรางปิดหน้าจอสื่อสารพร้อมกับกำคันบังคับไว้แน่น เท้าของเขาเหยียบคันเร่งและบินตามหัวหน้าของเขาไป

“คุณพวกกากเดนของซีออน คุณสารเลวที่ทิ้งโคโลนีใส่โลก พวกแกพรากทุกสิ่งไปจากฉัน! ตายซะคุณพวกสเปซนอยด์!!!”

โอลิเวอร์กัดฟันแน่นมือของเขาสั่นเทาด้วยความโกรธ ไฮแซ็คของเขาจ่อบีมไรเฟิลไปข้างหน้า และเขาไม่ลังเลที่จะสั่งเหนี่ยวไก....

เสียงปืนกลขนาด 120 มม. ดังขึ้นสลับกับแสงกระพริบจากบีมไรเฟิลไปมาจนนี่เวียนหัว โอลิเวอร์มองเห็นจิมทูว ที่อยู่ตรงหน้าทิ้งบีมไรเฟิลแล้วชักบีมเซเบอร์มาจากข้างหลังพร้อมกับเร่งเครื่องเพื่อเข้าระยะประชิด ในสนามรบนั้นไม่จำเป็นต้องนึกถึงศักดิ์ศรีที่สั่งแต่เรื่องไร้สาระอย่างถ้าเห็นเขาถือเซเบอร์แล้วให้เราโยนปืนทิ้งแล้วเข้าไปฟันด้วยเซเบอร์เหมือนกัน โดยไม่มีความลังเลโอลิเวอร์ยิงบีมไรเฟิลใส่ขาของจิมทูวจนมันระเบิด ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเสียการทรงตัวเพราะระบบ ‘AMBAC’[4] เสียหายจิมทูวจึงเซมาหา โอลิเวอร์ใช้มือซ้ายดึงขวานความร้อนออกมาและฟาดมันใส่ศัตรูบริเวณกลางลำตัวอันเป็นที่ตั้งของคอกพิท ด้วยแรงส่งจากบูตเตอร์ของฝ่ายนั้นบวกกับแรกกระแทกทำให้นักบินเสียชีวิตทันที โอลิเวอร์ไม่สนใจอะไรมากนักเขาบังคับไฮแซ็คให้ใช้เท้าถีบจิมทูวให้ห่างออกไป เก็บขวานและยิงบีมไรเฟิลใส่โมบิลสูทของฝ่ายเอลโก้ มันไม่ใช่จิมหรืออะไรที่คล้ายๆกันแต่มีรูปทรงประหลาดหน่อย ลำตัวอวบหนาสำดำกลืนไปกับสีของอวกาศ หัวกมมีเซนเซอร์แบบโมโนอายที่ใหญ่เกือบต็มพื้นที่ และมีปีกทรงตั้งขนานกับลำตัวสองข้าง

“ริค ดิแอส!!” แม้ไม่ต้องเทียบกับข้อมูลก็พอจะรู้จักโมบิลสูทตัวนี้ได้ โอลิเวอร์ยิงบีมไรเฟิลเข้าใส่พร้อมกับพยายามรุ่นระยะห่างออกไป ฝ่ายนั้นเอลก็ยิงบิมไรเฟิลโต้กลับมาบ้าง

“ชิ!! แบบนี้พลังงานของไรเฟิลหมดก่อนแน่” ไม่ต้องรอถึงขนาดนั้นบีมไรเฟิ่ลของของเขาก็ไม่อาจยิงได้อีกแล้ว เพราะมันได้ระเบิดไปกับแขนของไฮแซ็คแล้ว

“บ้าเอ๊ย!!!” เขาสถบออกมาพรอมกับไล่นิ้วไปยังปุ่มกดที่คันบังคับเพื่อเลือกบีมเซเบอร์มาเป็นอาวุธ “จริงอยู่ที่ว่าเดิมทีโมบิลสูทนั้นถูกออกแบบมาเพื่อต่อสู้ในระยะประชิด แต่ว่านั่นมันก็ไม่ใช่อะไรที่เราถนัดซะด้วยสิ” แม้จะใช้บีมเซเบอร์แต่เขาก็ยังคงถอยห่างออกมาโดยที่ยังคงหันหน้าให้ศัตรูอยู่

ริค ดิแอสเองก็ยังคงไล่เข้ามาเรื่อยๆ “สงครามน่ะมันไม่ได้รบคนเดียวหรอกนะเฟ้ย” โอลิเวอร์ก็ยิ้มออกมา เพราะมีแสงของบีมไรเฟิลจากข้างหลังขอกเขาพุ่งไปหาริค ดแอสแล้ว

“ร้อยตรี บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าแตกฝูงน่ะ” เสียงทุ้มต่ำของชายวัยกลางคนดังเข้ามาในคอกพิทของโอลิเวอร์

“ขอโทษครับหัวหน้าพอดีผมแพ้แรงจีน่ะครับ” เขาตอบแบบทีเล่นทีจริง ริค ดิแอสตอนนี้ก็เริ่มถอยออกไปแล้ว พร้อมกับสัญญาณถอยทัพของฝ่ายเอลโก

“มีคำสั่งจาก ‘อเล็กซานเดรีย’ ว่าให้ทุกหน่วยกับไปคุ้มกันยานของตน” เสียงหัวหน้าหน่วยดังขึ้นอีกครั้ง คาดว่าคราวนี้คงจะดังพร้อมกันทุกเครื่อง

“ถอยทัพเหรอครับ”

“คงงั้น เห็นว่าเอา ‘มาร์คทูว’ คืนมาได้แล้วน่ะ เอาล่ะกลับกันได้แล้ว เปิดใช้ระบบ ‘IMPC’[5] ปรับเป็นโหมดลาดตระเวนด้วย”

สิ้นเสียงสั่งทุกเครื่องก็ออกตัวบินกับไปด้วยระบบอัตโนมัติ ระบบน้ำหน่วยฝึกสอนของทิทานส์เป็นผู้ออกแบบแม้มันจะไม่ค่อยสมบูรณ์นักแต่ก็ถูกติดตั้งไว้ที่โมบิลสูททุกตัวของทิทานส์เพื่อเป็นการทดสอบและเก็บข้อมูล

โอลิเวอร์ปล่อยมือจากคอนโซลบังคับ เขาปลดหมวกนักบินออกและควานหากาแฟบรรจุหลอดสุญญากาศที่เขาโยนทิ้งไป เมื่อเจอมันแล้วเขาก็กัดหลอดออกดูดอย่างสบายอารมณ์


[1] เอลโก (AEUG; Anti Earth Union Group) กองกำลังต่อต้านสหพันธ์โลก

[2] ทิทานส์ (TITANS) หน่วยพิเศษของสหพันธ์ที่ก้อตั้งขึ้นมาเพื่อไล่ล่าพวกซีออนที่หลงเหลืออยู่

[3] โมบิลสูทเด็ค (Mobile Suit Deck) พื้นที่โรงเก็บโมบิลสูทของยานรบ

[4] AMBAC ; Active Mass Balance Auto Controls ระบบความคุมทิศทางในอวกาศของโมบิลสูท โดยการขยับแขนขาเพื่อให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงน้อยที่สุด และลดจุดติดตั้งท่อขับดัน ทำให้มีน้ำหนักที่เบาลง

[5] IMPC ; Integrated Maneuver Propulsion Controls ระบบอัตโนมัติ 5 อย่างอันได้แก่ ออกตัว, ลาตระเวน, รบในอวกาศ, ลงจอด และเดิน นักบินแค่เพียงเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วMSก็จะทำงานแบบอัตโนมัติตามสถานการณ์

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 14, 2015, 11:32:03 AM โดย sixouthae »

ออฟไลน์ kana-art

  • กัน-โอตะ
  • *****
  • กระทู้: 1,648
  • Like: 13
  • เพศ: ชาย
  • I'm Always Out Numbered But Never Out Manned
Re: เอานิยายกันดั้มแต่งเองมาลงเจ้าค่า
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 14, 2015, 12:06:14 PM »
น่ามีภาพประกอบด้วยก็น่าจะดีนะ ช่วยดึงดูดความสนใจด้วย :iconwink:

ออฟไลน์ sixouthae

  • Verified User
  • มือใหม่หัดต่อ
  • *
  • กระทู้: 11
  • Like: 0
  • เพศ: หญิง
Re: เอานิยายกันดั้มแต่งเองมาลงเจ้าค่า
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มกราคม 14, 2015, 01:15:02 PM »
น่ามีภาพประกอบด้วยก็น่าจะดีนะ ช่วยดึงดูดความสนใจด้วย :iconwink:
ประมาณวาดเป็นเรื่อง หรือ แค่ลงภาพ เฉยๆ คะ

ออฟไลน์ hillmaker

  • มือใหม่หัดต่อ
  • *
  • กระทู้: 49
  • Like: 1
Re: เอานิยายกันดั้มแต่งเองมาลงเจ้าค่า
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มกราคม 14, 2015, 02:00:42 PM »
อีกเสียง น่าจะวาดประกอบแบบLN ด้วยท่าจะดี

ออฟไลน์ sixouthae

  • Verified User
  • มือใหม่หัดต่อ
  • *
  • กระทู้: 11
  • Like: 0
  • เพศ: หญิง
Re: เอานิยายกันดั้มแต่งเองมาลงเจ้าค่า
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มกราคม 14, 2015, 02:18:19 PM »
น่ามีภาพประกอบด้วยก็น่าจะดีนะ ช่วยดึงดูดความสนใจด้วย :iconwink:
อีกเสียง น่าจะวาดประกอบแบบLN ด้วยท่าจะดี
จะลองพยายาม (แบบสุดๆ :icondizzy:) ค่ะ ตอนแรกเข้าใจว่าจะให้วาดเป็นมังงะเลย  :icondisapp: