ผู้เขียน หัวข้อ: การรอให้สีแห้ง สำหรับงานขั้นต่อไป ใช้เวลาเท่าไหร่ดีครับ  (อ่าน 36556 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ mod

  • Verified User
  • มือใหม่หัดต่อ
  • *
  • กระทู้: 31
  • Like: -4
กรณีของผม ใช้ Air Brush และผสมสีกับ leveling thinner ประมาณ 1:1.5 รองพื้นก็ผสม leveling thinner ด้วย ทั้งหมดผมใช้ของ Gunze อะครีลิก ปกติผมก็รอ 1 วันสำหรับขั้นต่อไป แต่เกรงว่าจะช้าไป จึงขอถามครับ ว่าควรรอนานกี่ ชั่วโมง หรือเป็นนาที :iconwish: ในกรณีดังนี้ครับ
1. พ่นสีหลายชั้น รอให้สีแห้ง เพื่อพ่นชั้นต่อไป (หรือไม่ต้องแห้ง)
2. รอให้ surfacer แห้ง เพื่อพ่นสีจริง
3. รอให้ surfacer แห้ง เพื่อขัดด้วยกระดาษทราย/compound ก่อนพ่นสี
4. รอให้สีแห้ง เพื่อขัดด้วย compound
5. รอให้สีแห้ง เพื่อพ่น top coat
6. รอให้สีแห้ง เพื่อแปะ masking tape หรือทา masking sol (คุ้นๆว่ารอวันเดียวไม่พอ)
7. รอให้น้ำแห้ง หลังจากล้างน้ำสบู่เพื่อล้างพวก compound ออก (สีแห้งอยู่แล้ว แต่จะมีเรื่องน้ำซึม/ระเหย)
แต่ละกรณีควรใช้เวลาประมาณเท่าไหร่ ขอคำแนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ sur_j

  • ต่อดิบตัดเส้น
  • **
  • กระทู้: 50
  • Like: -5
ของแบบนี้ วิชาใคร วิชามัน จริงๆนะเนี้ย

ไม่ตายตัวเสมอไปหรอกครับ ว่าต้องรอเท่าไร

อย่างของผม รอขั้นตอนต่อไป ก็ 1-2 ชม เป็นการพักเครื่องปั้มลม หลังจากใช้งานนาน 1-2 ชม เช่นกัน (ขึ้นอยู่กับจำนวนชิ้นงาน)


ของผมเอาเวลาพักเครื่องเป็นตัวกำหนดแทน    :iconnasty:

*** (เพิ่ม)

ในขั้น บังผ่น ไม่แน่เสมอไปว่า ต้องข้ามวัน ถ้าเทปที่ใช้ มันดีจิงๆ  1ชม ก็บังได้

ส่วน  top coat  ก็หลังจากติด รูปลอก แล้ว 1 วัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 26, 2011, 04:55:22 PM โดย sur_j »

ออฟไลน์ kit556

  • Verified User
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 778
  • Like: 54
แค่ความเห็นผมนะครับ จริงๆอาจไม่เป๊ะๆ แล้วแต่ละคนก็มีเทคนิคต่างกัน

จะมีสองคำนะครับสำหรับเกี่ยวกับการแห้งของสี  คือ drying และ curing ซึ่งอาจแปลง่ายๆว่าการแห้ง และการแข็งตัว
หลักการคือในเนื้อสีจะมีส่วนประกอบสามส่วนได้แก่
- hue pigment (ผงสี) เป็นของแข็งที่บดเป็นผง เป็นตัวที่ทำให้เนื้อสีเกิดสีสรรที่เราเห็น
- binder (เนื้อกาว) ที่ทำหน้าที่ยึดเกาะ ในสีที่ทำส่วนมากคือ acrylics ซึ่งเป็นพลาสติกชนิดหนึ่ง และในสภาพปกติเป็นของแข็งเช่นกัน แต่ในสีถูกจะละลายให้เหลว
- และสุดท้ายคือ dissolvant (ตัวละลายเจือจาง) หรือง่ายๆคือ thinner ครับ เป็นของเหลวที่ทำให้สีเหลว จนสามารถพ่นหรือทาได้

drying time คือระยะเวลาที่หลังจากสีถูกพ่นหรือทาไปบนผิวงานแล้ว จนถึง dissolvant แห้งออกไปจนหมด

curing time คือระยะเวลาที่หลังจากสีถูกพ่นหรือทาไปบนผิวงานแล้ว  จนถึง dissolvant แห้ง และเลยไปจนถึง binder ซึ่งจะต้องอาศัยเวลาในการฟอร์มตัวเป็นชั้นฟิลม์บางๆเคลือบผิวงานไว้ แห้งแข็งตัวสนิท ซึ่งถือเป็นขั้นสุดท้ายในกระบวนการแห้งตัวของสี

สีสูตร acrylics  lacquer (เช่นสี Gunze) จะมี drying time อยู่ที่ระยะเวลาเป็นหลักชั่วโมง และ curing time อยู่ที่เป็นวัน

ส่วนสีกลุ่มน้ำมัน เช่น Enamel จะมี drying time อยู่ที่หลักเป็นวันและ curing time เป็นเวลา 2-3 อาทิตย์

สำหรับการใช้งานจริง คร่าวๆสีสูตร Gunze ซึ่งเป็น acrylics lacquer จะใช้เวลาแห้งราวๆ 15 นาที เพียงพอสำหรับการพ่นสีชั้นถัดไป 2-3 ชั่วโมงจะเพียงพอสำหรับเอามือจับได้ แต่ถ้าให้แข็งสนิทต้องรอเป็นวันครับ (อันนี้สำหรับ Mr.thinner ธรรมดานะครับ แต่ถ้า leveling thinner นี่คงนานขึ้น แต่ไม่ทราบเพราะไม่ค่อยได้ใช้ครับ)


---------------------------
ส่วนคำถาม ผมตอบตามความเห็นผมนะครับ อาจไม่ถูก 100% ก็ได้

1. พ่นสีหลายชั้น รอให้สีแห้ง เพื่อพ่นชั้นต่อไป (หรือไม่ต้องแห้ง)
-  10-15 นาที สำหรับ thinner ธรรมดา
2. รอให้ surfacer แห้ง เพื่อพ่นสีจริง
- 10-15 นาทีเช่นกัน แต่โดยมากผมมักรอข้ามคืน เพราะ เอามาเช็ครอยอุดขัด เสียเวลาหน่อย แต่ถ้าเจอก็แก้ได้ ดีกว่าพ่นสีจริงไปแล้วต้องมาล้างสีใหม่
3. รอให้ surfacer แห้ง เพื่อขัดด้วยกระดาษทราย/compound ก่อนพ่นสี
- ข้ามคืน
4. รอให้สีแห้ง เพื่อขัดด้วย compound
- น่าจะเป็นรอเคลียร์แห้งหรือเปล่าครับ ก็น่าจะข้ามคืนเช่นกัน
5. รอให้สีแห้ง เพื่อพ่น top coat
- 2-3 ชั่วโมง แต่ผมเคยอ่านฉลาก clear บางยี่ห้อ เขาแนะนำให้รอสีแห้งก่อนเป็นวันเลยครับ เหตุผลคือ ถ้าสีชั้นล้างยังแห้งไม่สนิท มันจะมีผลกับ clear ทำให้ไม่เงาหรือด้านตามต้องการได้ ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่ความละเอียดในการทำโมนะครับ ผมเองบางทีพ่นสีเสร็จก็พ่นเครียร์อัดต่อไปเลยก็มี มันก็ไม่ได้แย่ขนาดจะเป็นผลเสียอะไร
6. รอให้สีแห้ง เพื่อแปะ masking tape หรือทา masking sol (คุ้นๆว่ารอวันเดียวไม่พอ)
- เคยรอ ข้ามวันก็พอนะครับ ถ้ารองพื้นดีๆ ใช้ tape tamiya ก็สบายๆครับ
7. รอให้น้ำแห้ง หลังจากล้างน้ำสบู่เพื่อล้างพวก compound ออก (สีแห้งอยู่แล้ว แต่จะมีเรื่องน้ำซึม/ระเหย)
- ข้ามคืน แต่ชัวร์ก็ 2-3 วันไปเลยถ้าโมมีซอกเล็กซอกน้อยเยอะ


อันนี้ประสบการณ์ขำๆของผมนะครับ ไม่รู้ใครเป็นเหมือนผมบ้าง สำหรับเรื่องรอเนี่ย บางทีดองโมมาข้ามปี รอนั่นรอนี่ ไม่ลงมือทำ แต่พอจับมาต่อ อุดขัด ทำสี บางทีระหว่างการรอแต่ละขั้นแค่ข้ามคืน มันนานจนแทบทนไม่ได้ ทั้งๆที่ก่อนนี้ก็ดองมาซะเค็ม :-)


http://thaimodel-kit.blogspot.com/search/label/acrylic

ออฟไลน์ naroki

  • Verified User
  • กัน-โอตะ
  • *
  • กระทู้: 3,268
  • Like: 544
  • Time and space with magic

1. พ่นสีหลายชั้น รอให้สีแห้ง เพื่อพ่นชั้นต่อไป (หรือไม่ต้องแห้ง)
แล้วแต่ทินเนอร์ครับ ถ้าเป็นพวกแมงมุม หรือทินเนอร์ก่อสร้าง  แทบไม่ต้องรอ แห้งไวมาก  ถ้าพวกกันเซ่  พ่นทุกชิ้นให้ครบ  แล้ววนกลับมาพ่นใหม่  อย่าไปซีเรียสมาก
2. รอให้ surfacer แห้ง เพื่อพ่นสีจริง
พ่นทับเลยก็ได้  สีรองพื้นบางยี่ห้อ บอกว่าให้พ่นแล้วให้รีบพ่นสีจริงภายใน 10 นาทีด้วยซ้ำไป เช่น R2000
3. รอให้ surfacer แห้ง เพื่อขัดด้วยกระดาษทราย/compound ก่อนพ่นสี
แล้วแต่ทินเนอร์เหมือนกัน  แต่หลักๆ ทั่วไป  30 นาทีก็โอเค
4. รอให้สีแห้ง เพื่อขัดด้วย compound
ถ้าเป้นผม ผมรอเป็นวันนะ  บางทีถึงมันแห้ง  แต่แห้งไม่สนิทจริงๆ สีถ้าแรงยึดเกาะจะดี ควรรอเวลาวันนึง ถึงจะแข็งแรงดี
5. รอให้สีแห้ง เพื่อพ่น top coat
5-10 นาทีก็พอ  ส่วนตัวรีบพ่นเร็วยิ่งดี  ปล่อยค้างนานๆ โอกาศฝุ่นไปเกาะสูง
6. รอให้สีแห้ง เพื่อแปะ masking tape หรือทา masking sol (คุ้นๆว่ารอวันเดียวไม่พอ)
ของผม  ครึ่งชั่วโมงก็พอเฮะ ถ้ามือนิ่งพอ คือไม่สะเทอนอะไรมาก อย่างที่บอกว่าสีจะแห้งดี ต้องรอทิ้งเอาใว้ซักวัน คือข้ามคืนน่ะแหล่ะ
7. รอให้น้ำแห้ง หลังจากล้างน้ำสบู่เพื่อล้างพวก compound ออก (สีแห้งอยู่แล้ว แต่จะมีเรื่องน้ำซึม/ระเหย)
แล้วแต่ชิ้น  ถ้าล้างไม่ดี  น้ำค้างในชิ้นส่วน  เป็นสัปดาห์ไม่หายก้มี  เวลาล้างพอล้างเสร็จควรแยกชิ้น จะได้แห้งไวๆ หรือจะสะบัดไล่น้ำออกก้ช่วยได้


หลักๆ  ส่วนตัวถ้าจะใช้ชัวร์  รอทิ้งข้ามวันครับ  
ถ้าพ่นสี แล้วพ่นสีชั้นที่สองทับนี่  ไม่เป็นไรหรอก  แต่ถ้าจะเอามากั้นพ่น / ขัดชิ้นส่วน / วอช  นี่ รอทิ้งใว้วันนึงจะดีกว่า    

ผมเคยทำงาน โดยพ่นเครียร์ไปแล้ว  จากรอแปปนึง  แล้วละเลงสีที่จะวอชเลย  แล้วสีที่ทำการวอชมันล้างไม่ออกมาแล้ว  เพราะสีเครียร์ที่พ่นไปมันแห้งไม่สนิทดี มันเลยซึมไปตามชั้นสีที่ยังไม่แห้ง ทำให้วอชไม่ออก
งานเลยเสียไปเลย เพราะสีที่วอชมันวอชไม่ออก
แต่ถ้านาทีเร่งด่วนจริงๆ ก็ทำได้  คือ รีบวอชรีบเช็ด  มันจะได้ซึมเข้าไปไม่ทัน  เพราะที่ผมเคยทำคือละเลงสีวอชแล้วทิ้งใว้วันนึง

เรื่องพ่นสีทับนี่  พ่นๆไปเถอะ  แค่ชั้นผิวมันดูแข็งแรงพอก็น่าจะพอแล้ว  แต่ถ้าจะเคลื่อนย้าย  หยิบจับ  หรือโยนลงกล่อง  รอซัก2-3 ชั่วโมงดีกว่า  
เพราะเวลาแห้ง มันขึ้นกับทินเนอร์  กับความหนาของสีที่พ่นด้วย  ถ้าเยิ้มมากๆ ก็ใช้เวลาเยอะมากเช่นกัน  แต่ถ้าจะให้แห้งสนิทดี  ทนแรงจับถู เอาไปขรูด โยน สวมยัดขยับเล่น  รออย่างต่ำวันนึงขึ้นไป  ไม่งั้นช่วงแรกๆ สีจะยังไม่แห้งดีนัก  จะถลอกง่ายกว่าที่ควร

สีเอนาเมล  ไม่มีคำว่าแห้งครับ สีพวกนี้โดนความร้อยมากๆ  มันจะละลายได้  งานยุคแรกๆผมใช้ทาเอา สีที่เท้าละลายเกาะกับพื้นห้องหมดแล้ว  เพราะห้องมันปิด อากาศไม่ค่อยถ่ายเท  

สุดท้าย  ขึ้นกับการตัดสินใจครับ  บางครั้งสูตรมันก็ไม่ได้ตายตัว ตัวแปรผันมันเยอะมาก  หรือบางทีรู้ว่าเสี่ยง  แต่ก็ต้องทำครับ  ส่วนตัวผมว่างานออกมาดี  งานออกมาสวย ไม่พอครับ  งานต้องออกมาไวด้วย  เพราะดองเต็มบ้าน แตกไลนน์ก็เยอะ หลายอย่าง  อยากจะทำแต่ก็ดองเอาใว้  บ้งก็ทำค้างก็เยอะ รู้ว่าเสี่ยง แต่ร่นเวลาได้เป็นวัน  ก็คุ้มที่จะเสี่ยงครับพลาดก็พ่นกันใหม่ พ่นซ่อมเสียเวลาน้อยกว่าพ่นทั้งตัวอยู่แล้ว แค่มันน่าเบื่อง่ะ

สุดท้ายคือประสบการณ์ครับ  จะช่วบลดความเสี่ยงได้เยอะ  ทำเยอะๆ  จะจับทางได้เองว่าแห้งแค่ใหนเพียงพอแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 26, 2011, 10:18:48 PM โดย naroki »

สร้างเพจละนะ
https://www.facebook.com/Narokiastray/