[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=ylFzJ3wRgHw[/youtube]
ยุคแห่งโบราณ ในยุคแห่งโบราณกาล ห่อหุ้มไปด้วยหมอกและความมืดมิด โลกปกครองไปด้วยเหล่ามังกร จนกระทั่งก่อกำเนิดไฟ เกิดความแตกต่างระหว่างแสงสว่างและความมืด ในความมืด เกิดสิ่งมีชีวิต และในกองไฟกองแรก "The first flame" ก่อกำเนิด Lord souls
ด้วย Lord souls ทำให้เหล่ามนุษย์มีพลังสามารถต่อกรกับเหล่ามังกรได้ โดย Lord souls ได้ถูกถือครองโดย
Nito, First of the death หนึ่งในผู้ถือครอง Lord souls ใช้หมอกพิษและโรคร้าย ฆ่าเหล่ามังกร
Gwyn, lord of sunlight หนึ่งในผู้ถือครอง Lord souls ใช้สายฟ้าทำลายเกล็ดแห่งนิรันดร์ของเหล่ามังกร
Witch of Izalith หนึ่งในผู้ถือครอง Lord souls ใช้พายุไฟ ทำลายล้างเหล่ามังกร
ประกอบกับ Seth the scaleless ที่ทรยศหักหลังเผ่าเดียวกัน และร่วมมือกับ Gywn
และสุดท้ายคือ furtive pygmy ที่ได้เศษเสี้ยวของเปลวไฟอันน้อยนิด และถูกลืมหายไปกับประวัติศาสตร์
ทำให้เหล่ามังกรสูญสิ้นไป จบยุคแห่งโบราณ เข้าสู่ยุคแห่งไฟ
สู่ยุคแห่งไฟ
โดย Gwyn ได้สภาปณาดินแดนขึ้น ชื่อว่า Lordran ขึ้น โดยมีเมืองชื่อ Anor Londo ตั้งเป็นสุญกลาง (อนึ่ง จริงๆในโลกของDark souls มีดินแดนหลายแห่งมาก ที่กล่าวมาก็มีราวๆ 18 แห่ง แต่ทั้งเกมส์จะดำเนินแค่ที่ Lordran ที่เดียว ที่เหลือแทงกั๊กใว้ภาคหน้า)
โดยด้วยพลังของ Lord souls ผุ้ที่ได้รับมันจะกลายเป็นเทพ โดย Gwyn กลายเป็นราชา และปกครองเมืองโดยเหล่าอัศวินที่สู้รบกับเหล่ามังกร โดยตัว Gwyn เองมีอัศวินที่เก่งที่สุดอยู่ 4 คน ได้แก่
Ornstein the Dragonslayer -นักรบในเกราะทอง มีเชื่องเสียงจากการสู้รบกับเหล่ามังกร
Lord's Blade Ciaran - นักรบหญิงเพียงคนเดียว เชื่ยวชาญด้านการลอบสังหาร
Hawkeye Gough - นักธนูตาบอด ที่ใช้ธนูขนาดยักษ์สังหารเหล่ามังกร
Artorias the Abysswalker - เป็นตัวสำคัญในเนื้อเรื่อง Dlc โดยมีความสามารถพิเศษในการอยู่มิติ Abyss ได้ โดยในเนื้อเรื่อง DLC เขาได้ไปทำภารกิจที่ต้องกำจัดเหล่า Abyss ที่หลุดออกมาในดินแดน Oolacile โดยเป็นเนื้อเรื่องในอดีตก่อนเกิดเหตุการในเนื้อเรื่องของ Dark souls ปรกติ
แต่สุดท้ายแล้วเขาก็พลาดท่า แต่ก่อนจะโดนความมืดมิดของ Abyss ดูดกลืนจิตใจ เขาได้ใช้พลังทั้งหมด กางบาเรียช่วย Sif สุนัขที่เขาเลี้ยงเอาใว้
สุดท้ายเขาก็โดนดูดกลืน จนสุดท้ายเราต้องฆ่าเขาซะ แล้วหลังจากนั้นจึงมีสุสานของ Artorias ตั้งอยู่ โดยมี Sif คอยทำหน้าที่เฝ้าสุสานอยู่
โดย Sif จะใช้ Great sword ของ Artorias เป็นอาวุธหลัก คอยเฝ้าสุสานของเจ้านายมัน
ส่วนดินแดน Oolacile ได้ถูกทำลายจนย่อยยับ จนกลายเป็นป่าร้าง แต่ยังคงเหลือซากเค้าของโบราณสถานเอาใว้
และ Gwyn ก็มีลูกเช่นกัน โดย
1. ลูกชายคนโต เจ้าของฉายาเทพแห่งสงคราม แต่ด้วยความโง่เขราในอดีต ทำให้ถูกถอดตำแหน่งเทพออก และถูกลบชื่อไปจากประวัติศาสตร์
2. Gwynevere , princess of sunlight ลูกสาวของ Gwyn
3. Dark Sun Gwyndolin ลูกชายคนสุดท้อง แต่ว่าได้รับพลังจากดวงจันทร์ จึงมีรูปร่างเหมือนผู้หญิง จึงได้รับการเลี้ยงดู และแต่งตัวเหมือนผู้หญิงแทนที่จะเป็นผุ้ชาย
-ยุคแห่งไฟ (ตอนกลาง)
ไม่ว่าอะไรก็ตาม เมื่อมีจุดเริ่มต้นย่อมมีจุดจบ Gwyn เองก็ได้รับรู้ถึงว่าพลังของ Lord souls เริ่มมอดลงเรื่อยๆ จึงให้ Witch of Izalith ทำการศึกษา และสร้าง Lord soul ขึ้นใหม่ โดยใช้ไฟของชีวิตเข้าไปหล่อหลอม แต่สุดท้ายผิดพลาด กลายเป็นไฟแห่งความยุ่งเหยิง เกิดเป็น The bed of chaos กลืนกิน Witch of Izalith และเหล่าลูกๆ เมือง Izalith ถูกดูดกลืน กลายเป็นแหล่งกำเนิดของเหล่าปิศาจ
เมือง lost Izalith หลังทำการทดลองผิดพลาด กลายเป็นนรกบนดินของเหล่าปิศาจ แต่ก็ทำให้เกิดศาสตร์แห่งการก่อกำเนิดไฟ นั่นก็คือเวทย์ Pyromancy
ลูกของ Izalith บางคนถูกกลืนกิน ทำให้บางส่วนของร่างกลายเป็นปิศาจ แต่บางคนก็หนีมาได้อย่างปลอดภัย เช่น quelaana ที่กลายเป็นอาจารย์ของ Pyromancy ให้เรา
ซึ่ง Gwyn ที่เห็นจึงเกิดความหวาดกลัวมากขึ้น ว่าจะหมดยุตของไฟ ที่ทำให้เหล่าเทพทั้งหมด หมดอำนาจลง และเป็นจุดเริ่มต้นยุคแห่งความมืดมิด
Gwyn จึงตัดสินใจทดลอง ใช้พลังชีวิต (/วิญญาณ) ของตนเอง เป็นเชื้อไฟให้กับ The first flame โดยขนกองทัพของตัวเองกว่าครึ่ง กรีทาทัพไปยัง First flame และใช้ไฟของตนเองเผาใหม้ ดึงกองทัพกว่าครึ่งโดนดูด และเผาใหม้ตามไปด้วย ทำให้ยุคแห่งไฟยังคงสานต่อไปได้ ตราบจนกว่าพลังชีวิตของ Gwyn จะหมดลง
ทำให้ไฟของ First flameยังคงลุกโชญอยู่ พลังของเหล่า Lord ยังคงอยู่ แต่ก็ได้แต่รอวันที่จะมอดลง โดยจากเหตุการณ์ดังกลาว Gwyn จึงได้อีกฉายาว่า Gwyn, Lord of Cinder
ซึ่งอันที่จริง สิ่งที่ Gwyn กลัวคือคำทำนายที่ว่า เมื่อจบยุคแห่งไฟ จะก่อเกิดยุคแห่งความมืด (Age of dark) ซึ่งนั่นก็คือมนุษย์นั้นเอง โดยคำทำนายกล่าวว่า ผู้ที่ถูกเลือกจะกลายเป็น Dark lord และเริ่มยุคแห่งความมืด ซึ่งก็หมายความว่าจบซึ่งยุคของเหล่าทวยเทพ กลายมาเป็นยุคของมนุษย์
โดยก่อนไป Gwynได้แห่ง Lord soul ของตัวเองให้แก่ Seth ที่ทำหน้าที่วิจัยงาน เกล็ดแห่งนิรัดร์ ให้กับ Gywn , Four kings ผู้นำของเมือง New londo ที่พึ่งก่อสร้างขึ้นมาใหม่
Seth, the scaleless ซึ่งทรยศเผ่าตัวเอง และเป็นเพื่อนกับ Gwyn หลังจบสงครามก็มาทำงานให้ โดยทำงานวิจัยของตัวเองอยู่ในสถาวิจัยของตน เพื่อหาทางสร้างเกล็ดแห่งนิรันดร์ที่ตนเองไม่มีทั้งๆที่เป็นมังกร
ส่วน Four kings ผู้นำของเมือง New Rondo ที่เป็นที่อยู่ของเหล่ามนุษย์ โดยเหล่าเทพส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ใน Anor londo ส่วนคนธรรมดาก็อพยพมายังส่วนใต้สร้างเป็นเมือง New londo ด้วยความเชื่อใจและความเป็นเพื่อน Gwyn จึงให้ Lord souls กับ Four kings
แต่หลังจากนั้น ได้เกิดเหตุการณ์ขึ้น นั่นก็คือ Four kings ทำการศึกษาเกี่ยวกับ Dark Souls ซึ่งก็คือสิ่งที่ Gywn กลัว ซึ่งตามคำทำนายผู้ถูกเลือกจะกลายเป็น Dark lord และเริ่มยุคแห่งความมืด หลังจบสิ้นยุคแห่งไฟ
โดย Dark Souls เกิดจาก humanity จำนวนมากมารวมกัน ซึ่ง Humanity หาได้จากสิ่งมีชีวิต ซึ่ง Four kings ก็ทำการศึกษา จนค้นพบเหล่า Abyss ที่มีศาสตร์แห่งความมืดที่สามารถดูด Humanity จากสิ่งมีชีวิตได้ Four Kings จึงทำสัญญากับเหล่า Abyss และเปิดประตู Abyss ออกมา และปลดปล่อยพวก Dark wraith ออกมาดูด Humanity ของชาวเมือง รวมถึงเหล่าทหารเองก็ได้ถูกความมืดมิดดูดกลืนไปด้วย โดย Four kings หวังว่าจะรวมรวม Humanity มาเพื่อใช้ Dark souls มาแทนที่ Lord souls โดยเป้าหมายคือ Anor londo เพื่อล้างแค้นที่ขับไล่คนธรรมดาที่ไม่ใช่เทพมายังดิดแดนห่างไกล
แต่สุดท้าย เมือง New londo ก็ถูกปิดหนึก โดยการเปิดประตูน้ำ เพื่อให้เมืองทั้งเมืองจมน้ำ เพื่อติดประตู Abyss คนทั้งเมืองจมน้ำตายหมด Four kings ถูกปิดผนึกอยู่ใน Abyss
ส่วนเหล่าเทพใน Anor londo ก็ต่างก็เห็นว่ายุคแห่งไฟกำลังจะจบสิ้นลง จึงทยอยออกไปจากเมือง รวมทั้ง Gwynevere ลูกสาวของ Gwyn โดยแต่งงานกับเทพแห่งไฟ Flynnn และออก จากเมือง Anor londo ไป เหลือเพียงน้องชาย Dark Sun Gwyndolin ที่ยังเชื่อมั่นในยุคแห่งไฟต่อไป
ยุคแห่งไฟ ตอนปลาย
ผ่านไป 1 พันปี มนุษย์ธรรมดาส่วนใหญ่ตายไปหมดแล้ว เหลือแต่เพียง Undead ยังคงเดินดินอยู่ โดยผู้ที่เป็น Undead จะไม่ตายตามชื่อ แต่จะเสียจริตไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายจะกลายเป็น hollow บ้าคลั่งฆ่าไม่เลือก โดย Humanity ซึ่งเป็นผลึกสีดำ ที่เป็นชิ้นส่วนของ Dark Souls สามารถช่วยเพิ่มค่า humanity ให้เหล่า Undead ยังคงสติใว้ได้
Undead คือ ผู้คนที่ได้รับเศษเสี้ยวของเปลวไฟ ทำให้มีอายุยาวไม่มีวันตายเหมือนเทพ แต่ไม่มีพลังอำนาจ ได้แต่รอวันกลายเป็น Hollow ผู้คนที่โดนคำสาบ Undead จึงโดนส่งตัวมายังคุก เพื่อที่พอถึงเวลากลายเป็น Hollow จะได้ไม่ไปทำร้ายคนอื่น
ซึ่งตัวเอกเราจะถูกส่งมาที่คุกเช่นกัน โดยสุดท้ายหลบหนีออกมาได้ จากความช่วยเหลือของอัศวินที่เดินทางมาเพื่อหาทางแก้คำสาบ Undead และฝากเราทำงานแทน เพราะตัวเขาเองใกล้จะกลายเป็น hollow แล้ว
หลังจากที่เราหลบหนีออกจากคุกมาได้ ก็ได้ข้อมูลของตำนาน The chosen undead ที่ว่าจะสามารถลบล้างคำสาบของเหล่า Undead ได้ เราจึงเดินทางไปหาความจริงที่เมือง Anor londo แต่หนทางนั้นก็ไม่ใช่ง่ายๆ เพราะตอนนี้ทุกหนแห่งของ Lordran กลายเป็นนรกบนดินไปแล้ว เพราะเต็มไปด้วยปิศาจ, เหล่าผู้คนที่กลายเป็น Hollow และความพินาศแทบจะทุกหนแห่ง รวมถึงเหล่าปิศาจ และมอนสเตอร์ต่างๆ
ซึ่งสุดท้ายเราก็หาทางไปเมือง Anor londo โดยการสั่นกระดิ่งทั้ง 2 แห่ง เพื่อให้ตระตูของ Sen's Fortress ซึ่งเป็นหน้าด่านของเมือง Anor londo เปิดออก
Sen's Fortress
หน้าด่านของทางเข้าไปยัง Anor londo ซึ่งเนื่องจากเมือง Anor londo เป็นเมืองที่สร้างขึ้นเพื่อเหล่าเทพ คนธรรมดาจึงใช่ว่าจะไปได้ จึงสร้างป้อมปราการขนาดใหญ่เพื่อกันคนบุกรุก และเป็นเพียงทางเดียวเพื่อเข้าเมือง Anor londo
เมือง Anor londo
เมืองของเหล่าเทพ แต่ถูกเทพทอดทิ้ง ตามชื่อแปลว่าดินแดนที่พระอาทิตย์ส่องสว่างตลอดกาล เมืองของเหล่าเทพ และเป็นจุดที่บอกเล่าถึงชะตากรรมของ Chosen undead
แต่ในครั้งก่อน ในยุคที่ไฟรุ่งเรือง เป็นเมืองของเหล่าเทพ แต่หลังจากที่ไฟกำลังมอดลงเหล่าเทพจึงพากันทอดทิ้งเมือง ทยอยไปอยู่ที่อื่นกัน เหลือเพียงเหล่าอัศวิน Undead ที่คอยดูแลเมืองอยู่
โดยหนทางของเราคือการไปยังปราสาทด้านในสุดของ Anor londo โดยสุดท้ายก็พบกับผู้เฝ้าห้องสุดท้าย นั่นก็คือ Ornstein the Dragonslayer 1 ใน 4 อัศวินพิทักษ์ของ Gwyn และ executioner Smug คอยเฝ้าอยู่ ซึ่งเราก็ต้องเอาชนะพวกเขาให้ได้ก่อนไปยังจุดสุดท้ายของปราสาท
โดย Ornstein เป็นอัศวินของ Gwyn ตั้งแต่สมัยล่ามังกร และทำงานคอยรับใช้มาตลอดแม้หลังสิ้นเจ้านายไป ก็ทำหน้าของตนต่อไปอย่างไม่มีวันจบสิ้น ส่วน executioner Smug คือนักประหาร ชื่อชอบการฆ่าฟันมาก จนไม่สามารถเป็นอัศวินได้
โดยด้านในสุด เราจะพบกับ Gwynevere , princess of sunlight และได้เล่าถึงตำนานของ Chosen undead ที่จะมาปลดปล่อยคำสาบของเหล่า Undead และให้เราไปยัง First flame เพื่อรับตำแหน่งต่อจาก Gwyn และปลดปล่อยเหล่า Undead จากคำสาบ
โดยเธอจะมอบ lord vessel ให้กับเรา เพื่อรวบรวม lord souls ทั้งหมดเข้าด้วยกันอีกครั้งเพื่อจุด First flame ขึ้นมาใหม่ เราจึงต้องไปทวง Lord Souls จากเหล่าผู้คือคลองนั่นก็คือ Bed of chaos, Four king, Gravelord Nitto และ Seath the scaleless
โดยเราจะได้ Kingseeker Frampt มาเป็นผู้พาไปยัง Kiln of the First Flame โดยเรียกเราว่าเป็น The chosen undead และให้เราพยายามเพื่อสานต่อ Gwyn
Tomb of the Giants
สุสานของเหล่ายักษ์ เป็นสุสานขนาดใหญ่ และลึก ในก้นบึ้งที่ลึกที่สุด Nito อาศัยอยู่ที่นั่น โดยดูเหมือนตั้งแต่จบยุคของเหล่ามังกร ตัว Nitto เองก็ได้แต่อาศัยอยุ่ในสุสานไม่ได้ออกไปใหน
โดยที่ลึกสุดของ Tomb of the Giants , Nitto อาศัยอยู่ที่นั่น โดยเป็นผู้นำของลัทธิ Gravelord Servant covenant โดยเราสามารถสมัครเป็นลูกน้องเพื่อเรียนเวทย์มนต์จากเขาได้เช่นกัน แต่สุดท้ายเราก็ต้องกระทืบเขาเพื่อเอา Lord souls มา ซึ่งถ้าเทียบกับผู้ถือคลองคนอื่นแล้วเขาดูจะดีที่สุดแล้วเพราะอาศัยอยู่แค่ในโลงศพ ไม่ยอมสุงสิงหรือขึ้นมาข้่างบน หรืออาละวาดฆ่าผู้คนเหมือนคนอื่นๆ.....
lost Izalith
Bed of chaos ที่เป็นสิ่งที่กำเนิดจากการทดลองที่ผิดพลาดของ Witch of Izalith และกลืนเมือง lost Izalith ไปจนหมด กลายเป็นเมืองนรกที่เต็มไปด้วยเปลวไฟ และเป็นต้นกำเนิดของเหล่าปิศาจในดินแดน Lordran รากของมันชอนไปไปทั่วเมือง lost Izalith
เหล่าลูกๆของ Witch of Izalith เองก็ได้รับผลของมัน และกลายเป็นปิศาจไป เช่น Ceaseless Discharge หรือ Chaos Witch Quelaag ที่กลายเ็นปิศาจรูปร่างผิดเพี้ยนไป lost Izalith จึงกลายเป็นเมืองที่มีแต่ปิศาจเดินเร่ร่อนไปมา
ที่ส่วนลึกสุดของ lost Izalith เราจะพบกับตัวการของความวุ่นวายทั้งหมด นั่นก็คือ Bed of chaos ที่เกิดจากการทดลองที่ผิดพลาด ก่อเกิดเป็นเปลวไฟแห่งความยุ่งเหยิง ยากเกินจะควบคุม
New londo ruin
เมืองของเหล่า Undead เก่า ที่เคยเป็นเมืองมาก่อน โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเมืองของ Undead ตรงกันข้ามกับ Anor londo ที่เป็นเมืองของเทพ
แต่ถูกทำให้จมน้ำทั้งเมือง เพื่อปิดผนึก Four kings เอาใว้ ที่ทำสัญญากับ Abyss โดยการจะเข้าถึง Four kings เราจำจะต้องหาวิธีเปิดประตูเขื่อนเพื่อปล่อยน้ำออกไปเสียก่อน
โดยในเมืองนี้จะเต็มไปด้วยเหล่าผี ที่เกิดจากคนที่ตายในเมือง และหลังน้ำลดจะพบซากกระดูกของคนที่จมน้ำตายเป็นจำนวนมาก และประตูสู่ Abyss เปิดออก ทำให้เหล่า Dark wraith ออกมาอีกครั้ง
ที่ส่วนลึกสุด เราจะเข้าสู่มิติ Abyss และพบกับ Four kings อดีตกษัตรย์ที่ตกอยู่ภายใต้ความมืดมิด
หลังปราบได้ ถ้ากลับมายัง Abyss เราจะพบกับ Darkstalker Kaathe โดยเราสามารถสมัครเข้าลัทธิ Darkwraith ได้ ทำให้มีความสามารถเหมือน four kings คือมีปลอกแขน Dark Hand ที่สามารถดูด Humanity จาก NPC หรือผู้เล่นคนอื่นได้ และสามารถซื้อ Item ข้ามมิติไปแกล้งผู้เล่นคนอื่นได้ด้วย
The Duke's Archives
Seath the scaleless ที่หลังจากช่วย Gwyn ชนะเหล่ามังกร ก็ได้รับการแต่งตั้งเป็น Duke และทำการทดลองวิจัยสร้าง เกล็ดแห่งนิรันร์ที่ตนเองขาดหายไป
ในห้องทดลองล้วนเต็มไปด้วยหนังสือ และกับดักที่เอาใว้ป้องกันผู้บุกรุก ข้างใต้หอสมุดเป็นคุกใต้ดินที่ใช้เก็บสิ่งมีชีวิตทดลอง ซึ่งหลังจากที่ Gywn ไปแล้ว ตนอเงอก็เริ่มคลุ้มคลั่งจากการวิจัยที่ไม่สามารถเป็นไปได้ของตน
ตัว Seath นั้น ถึงจะไม่มีเกล็ดแห่งนิรัดร์ แต่มีผลึกของเผ่ามังกรอยู่ ทำให้ตนเองเป็นอมตะ ซึ่งซ่อนอยู่ที่ Crystal cave
ในครั้งแรกที่เราสู้กับเขาที่ The Duke's Archives เราจะแพ้ค่อนข้างแน่นอน เพราะ Seath จะเป็นอมตะ จนสุดท้ายเราจะได้รู้ที่ซ่อนของผลึก ที่ซ่อนที่ Crystal cave เราจึงต้องไปตัดสินกับเขาที่นั่น เพื่อชิง Lord souls
หลังจากที่เราสามารถรวบรวม Lord Souls มาได้ครบแล้ว เราจึงจะสามารถเปิดประตูไปสู่ Kiln of the First Flame ได้ ซึ่งซึ่งเป็นดินแดนที่ถูกมอดใหม้จนเหลือแต่ขี้เถ้าปกคลุมอยู่ทั่วทั้งดินแดน จากการที่ Gwyn ทำการ link เข้ากับไฟ เกิดเป็นพายุไฟเผาผลาญไปจนสิ้น
ที่ด้านในสุดของหอคอย เราจะต้องสู้กับ Gwyn ซึ่งเป็นบอสคนสุดท้าย
-ending
-1) Linking the fire. เราจะสานต่อเจตนารมณืของ Gwyn โดยการเป็นเชื้อไฟใหม่ให้กับ First Flame ทำให้ยุคแห่งไฟกลับมาอีกครั้ง และลบล้างคำสาบของเหล่า Undead..... ซะที่ใหนกันล่ะ.
-2) The age of dark. ..........อันที่จริง ถ้าเราเล่นตามเนื้อเรื่อง เราจะโดนหลอกมาตั้งแต่ต้นยันจบ โดยฟีมือของ Dark Sun Gwyndolin ที่ต้องการหาคนมาทำหน้าที่แทน Gywn เพื่อสานต่อยุคแห่งไฟ
โดยตามตำนานจริงๆแล้ว The chosen undead จะเป็นผู้จบยุคแห่งไฟ และกลายเป็น Dark lord และเริ่มยุคแห่งความมืด Gwyndolin เลยทำการบิดเบือนตำนาน ให้เป็น the chosen undead จะเข้ามารับช่วงต่อจาก Gwyn และลบล้างคำสาบของUndead เพื่อให้ The chosen Undead ตามตำนานเดินทางมา anor londo แล้วทดสอบโดยเหล่าอัศวิน และ Ornstein the Dragonslayer เพื่อที่แน่ใจว่าเป้น The chosen undead จริงๆ และใช้ "ภาพลวงตา" ของ Gwynevere , princess of sunlight พี่สาวตนเอง เพื่อหลอกให้เชื่อตำนานที่บิดเบือน ให้ตัวเอก(ผู้เล่น) เชื่อว่าตนเองคือผู้ถูกเลือกที่จะมาปลดปล่อยคำสาป Undead ซึ่งก็ได้ผล ผู้เล่นที่โดนหลอกจะเลือกที่จะรวบรวม Lord souls และจบฉากจบโดยการ Link เข้ากับ First flame ทำให้ Anor londo กลับสู่ยุคแห่งไฟอีกครั้ง ในขณะที่ผู้เล่นที่กลายเป้นเชื้อไฟก็ได้แต่รอวัฏจักรนี้อีกรอบ จนกว่าไฟของตนเองจะมอดลงและมีผู้กล้าคนใหม่มาแทนที่ตนเอง
โดยอันที่จริง The chosen undead คือผู้ที่จะมาเป็น Dark lord จึงมีวิญญาณอันกล้าแกร่งไม่แพ้ Gwyn เหมาะที่จะมาเป็นเชื้อไฟแทนที่ Gwyn และที่มากกว่านั้นคือ อาจจะเป็นผู้ที่มี Dark souls
ซึ่งถ้าผู้เล่นเอะใจ จากการสนทนากับ npc บางคน และคำใบ้ที่บอกว่า อันที่จริง Gwynevere ได้แต่งงานและออกจาก Anor londo ไปแล้ว ถ้าเราตัดสินใจ โจมตีภาพลวงตาของ Gwynevere จะทำให้รู้ความจริงว่า เมือง Anor londo นั้นอันที่จริง ดวงอามิตย์ได้มอดลงไปแล้ว ซึ่งที่จริงคือเมืองที่ปกคลุมด้วยความมืดมิด แต่แสงอาทิตย์ที่เราเห็นคือภาพลวงตาของ Dark Sun Gwyndolin
เพื่อปิดบังความจริงนี้ Dark Sun Gwyndolin จึงสร้างลัทธิของตนเองขึ้นมา นั่นก็คือ Blade of the Darkmoon โดยเป็นลัทธิที่มีใช้เพื่อเชือดคนที่รู้ความจริงของ anor londo นี้ (เราสามารถสมัครได้) ปละ ลัทธิ Princess's Guard ที่ทำหน้าที่ปกป้อง Gwynevere (ที่จริงๆเป็นแค่ภาพลวงตา) และตัวเองคอยชักใยคนที่อยู่ลัทธินี้ให้ทำตามความต้องการของตน
ซึ่งถ้าเราคุยกับ Darkstalker Kaathe ที่ Abyss เราจะได้ทราบความจริงจากเขา ว่าอันที่จริง ตอนค้นพบวิญญาณทั้ง 3 นั้น จริงๆยังมี Souls ที่ 4 อยู่ นั่นก็คือ Dark souls และเราคือรุ่นหลานของ furtive pygmy ที่ครองครองวิญญาณที่ 4 และเฟ้ารอวันที่ First flame มอดลง Gywn พยายามฝืนธรรมชาติโดยการเสียสละตนเองเพื่อต่ออายุของยุคแห่งไฟ เพราะกลัว่ายุคแห่งความมืด มุคของมนุษย์จะขึ้นมาแทนที่
เราที่รู้ความจริงของเบื้องหลังตำนานนี้ สามารถไปกระทืบ Dark Sun Gwyndolin ได้ และจบเกมส์แบบ Age of dark โดยการเลือกที่จะไม่เชื่อมต่อไฟ ปล่อยให้ไฟมอดลงและเริ่มยุคแห่งความมืด โดยเมื่อไฟของ First flame มอดลง ย่อมหมายถึงจุดจบของเหล่าเทพ และคำสาบของ Undead ย่อมหายไป และเข้าสู่ยุคของความมืด ยุคของเหล่ามนุษย์
โดยฉากจบแบบLink the fire จะเป็นแค่การต่ออายุ ยุคแห่งไฟเท่านั้น สุดท้ายก็เป็นแค่การยื้อเวลาไปสู่ยุคแห่งความมืดอยู่ดี
Other story
Solaire of Astora
บุรุษปริศนา ที่เราสามารถเรียกออกมาช่วยก่อนไปกระทืบบอส ตัวตนของเขาเป็นปริศนา ได้แต่รู้ข้อมูลที่ว่าเขากำลังตามหาดวงอาทิตย์ส่วนตัวของเขา เจ้าตัวเป้นคนจิตใจสูงส่ง และไม่ยอมให้คำสาป Undead มาเหนี่ยวรั้งเขา
ซึ่งมีอีกคำกล่าวนึงว่า เขาอาจจะเป็นลูกชายคนโตของ Gwyn ที่ถูกถอดอกจากตำแหน่งเทพ เนื่องจากความโง่เขราในอดีต ซึ่งตัว Solaire นั้นโง่จริงๆ และชอบบ่นๆถึงความผิดพลาดในอดีต และมีความสามารถใช้เวทย์ Great Lightning Spear ได้ ซึ่งกล่าวว่าเป็นอาวุธของเทพ God of war และอีกปัจจัยหลายๆอย่าง แต่ท้ายที่สุดไม่มีหลักฐานอะไรบ่งชี้ว่าเขาเป็นลูกของ Gwyn จริงๆ มีแต่หลักฐานอ้อมๆ ฉะนั้นเขาจึงจะเป็นลูกของ Gwyn จริงๆหรือไม่ก็ได้ ปล่อยให้ไปจิ้นกันเอาเอง
Bonfire / Curse of undead
คำสาบของเหล่า Undead นั้นคือผู้ที่ได้พลังจากเปลวไฟ แต่ได้รับเพียงเศษเสี้ยวจึงไม่มีอำนาจอะไรมากซึ่งผลก็คือกลายเป็นผู้ไม่รู้จักตาย แต่ค่อยๆสูญเสียสติไปเรื่อยๆ จน Humanity หมด ก็จะกลายเป็น hollow ออกอาละวาดฆ่าฟันไปทั่ว
โดย Bonfire นั้น ก็เหมือนกับไฟที่ Gwyn จุด คือใช้วิญญาณของตนเองเพื่อจุดไฟของ The first flame โดยใช้ Humanity เป็นเชื้อไฟ ในบางที่ของ bonfire จะมี Fire keeper ซึ่งเป็นผู้คอยดูแล Bonfire ไม่ให้มอดลงเพื่อเป็นแหล่งฟื้นพลังของเหล่า Undead และรักษาจริตของพวกเขาใว้ และเศษไฟของ Bonfire ก็สามารถนำมาฟื้นพลังของเหล่า Undead ได้อีกด้วย โดยดวงวิญญาณของ Fire keeper จะเป็นวิญญาณแบบพิเศษ ที่กล่าวกันว่าให้ Humanity แบบไม่มีขีดจำกัดเหมือน GN-Drive ที่คอยจ่าย Humanity ให้กับ Bonfire เรื่อยๆ ให้ไม่มีวันดับ โดย Fire keeper ทุกคนจะเป็นผู้หญิงทั้งหมด
จุดประสงค์ของเหล่าตัวละคร
เนื่องจากเนื้อเรื่องของเกมส์ กระจัดกระจายกัน และบอกเล่าผ่านทาง Item ทำให้เหตุผลหลายๆอย่างไม่ได้ระบุใว้ ปล่อยให้ไปจิ้นกันเอง เช่น เหตุผลที่ Dark Sun Gwyndolin หลอกลวงผู้เล่นมาเพื่ออะไร เพื่อปลดปล่อยพ่อตนเอง เพื่อที่ตนจะได้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากพ่อ หรือเพื่อจุดไฟใหม่ เพื่อเรียกเหล่าเทพที่ทิ้ง Anor londo ไป ให้กลับมาเพราะเชื่อว่าจะสามารถหาวิธีจุดไฟต่อไปได้? เหตุผลเหล่านี้ไม่ได้อธิบาย ปล่อยให้ไปจิ้นกันเอง รวมถึงเหตุผลที่เหล่าเทพทิ้ง Anor londo ทิ้งไป หรือสภาพแวดล้อมนอกเมือง Lordran ก็ไม่มีระบุใว้ แม้แต่ Grave lord nito ที่นอนอยู่ในโลงไปวันๆ...... ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าคที่นอนอยู่ในโลงไปวันๆ ทำไมจู่ๆลุกขึ้นมาสู้กับเหล่ามังกร..... ทั้งหมดทั้งปวง แล้วแต่คนเล่นจะคิด
Dark sign
ไม่มีบอกว่ามันคืออะไร หรือเป็นสัญลักษณ์ของ Undead ที่ถูกเลือก รู้แต่ตัวเอกของเกมส์กลายเป็น Undead และถูกขังอยู่ สิ่งที่ติดตัวก็มีเพียงตรา Dark sign เท่านั้น แต่ไม่ได้ระบุว่าคนอื่นที่เป็น Undead มีตรานี้หรือไม่
Dark Souls
ตัวเกมส์หลักๆจะกล่าวถึงการสลับไปมาของแสงสว่าง(Lord souls) และความมืด (Dark souls) ของการพยายามแทนที่กันและกัน ขึ้นอยู่กับเราเลือกฉากจบแบบใหน แต่สุดท้ายแล้วจะกลับสู่วัฏจักรเดิม คือ ไม่มีอะไรจีรังเสมอไป เมื่อมีแสงสว่างย่อมมีความมืด สลับกันไปมา โดยตัวเราคือผู้ที่มีพลังอย่างที่4 คือ Dark souls และสามารถเลือกที่จะเอามาใช้จุดไฟต่อ หรือตั้งตัวเองเป็น Dark lord ตามแต่ตอนจบ
Black Knight/ Silver Knight
Black knight คืออัศวินที่ขึ้นตรงกับ Gwyn โดยครง หลังจากที่ Gwyn ลิงค์กับไฟไปแล้วก็ทำหน้าที่ของตน คือ ตามหา Chosen Undead แล้วเชือดทิ้งซะ เพื่อป้องกันการเข้าสู่ยุคแห่งความมืด
ส่วน Silver Knight คืออัศวินที่ป้องกันเมือง Anor londo ขึ้นตรงกับ Ornstein the Dragonslayer 1ใน4อัศวินเทพที่ยังมีชีวิตเหลืออยู่ ที่เหลือเดี้ยงไปใน DLC หมดแล้ว
อื่นๆ
- ในเกมส์ กล่าวอ้างถึงดินแดนอื่นเยอะมาก แต่ไม่ได้ใช้ แทงกั๊กใว้ใช้ภาคอื่น
- Flynn นี่มันใครฟระ
- ในโลกของเกมส์ปัจจุบัน ไม่ได้ระบุว่าเหลือมนุษย์ธรรมดาบ้างใหม หรือตายหมดแล้วเหลือแต่ Undead
- Lord souls และ Dark souls เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ยังไม่มีคำอธิบาย
- Abyss นี่มันมายังไงหว่า
- Dark Souls 2 สร้างไปแล้ว 25% และอาจไม่ทันขายปี 2013 ..................
- ทั้งหมดนี่ อย่าเชื่ออะไรมาก เพราะในเกมส์จะไม่เคยบอกอะไรตรงๆเลย ต้องอาสัยการตีความเป็นจำนวนมาก และในบางหัวข้อก็ยังถกเถียงกันไม่จบสิ้น
- จริงๆเล่นจบไปนานมากแล้ว และไม่คิดจะเขียน แต่กลับมาเขียนเพราะพึ่งรู้ตัวว่าโดน Dark Sun Gwyndolin หลอกมาเป็นปี.....
[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=fLqEuHclU-E[/youtube]
