หัวข้อ: [Naro ⑨ Project : White Glint ~ For Answer + Vanguard Overboost] Mission 47 "For Answer " [End]

[naroki]

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=JRJ2RZBdT1Y&feature=related[/youtube]

ภาค 1 : Nineball : http://www.thaigundam.com/forum/index.php?topic=24368.0
ภาค 2 : Knight Gundam : http://www.thaigundam.com/forum/index.php?topic=24839.0
ภาค 3 : Nitigale : http://www.thaigundam.com/forum/index.php?topic=24940.0
ภาค 4 : Hi-Nu Gundam EVO : http://www.thaigundam.com/forum/index.php?topic=25214.0
ภาค 5 : XI Gundam : http://www.thaigundam.com/forum/index.php?topic=25419.0
ภาค 6 : Musha Gundam : http://www.thaigundam.com/forum/index.php?topic=25698.0
ภาค 7 : Soulgain : http://www.thaigundam.com/forum/index.php?topic=25763.0


กลับมาทำงานอีกครั้งกับ Armored Core
ซึ่งสำหรับ White Glint นี้จริงๆอุดขัดเอาใว้นานแล้วล่ะ  แต่รอเก็บประสบการณ์ทำเวทเทอริ่งก่อน  เพราะส่วนตัวยังไม่ถนัดงานแนว Weatering เพราะเริ่มพยามยามทำจริงๆก็ไม่ค่อยนานเท่าใหร่
ส่วนตัวแล้วก็ถือว่าหาประสบการณ์กับจุดยืน ส่วนตัวสำหรับงานทั้งหมด พลาดได้ แต่สำหรับตัวนี้ คำว่าพลาดนั้นห้ามเป็นอันขาด
ส่วนตัว ผมไม่ใช่ modeller แต่เป็น Gamer ที่มี Skill ของ Modeller หลักการทำงานคือใช้พลังศรัทธา กับพลังแฟนบอย ฟีมือใว้ทีหลัก ซึ่งสำหรับตัวนี้ถือว่าเป็นตัวเด่น และเป็นตัวชูหน้าชูตาพมสมควร จึงต้องเก็บเอาใว้จนมั่นใจว่าพอจะมีความสามารถพอถึงค่อยขุดมาทำ ซึ่งส่วนตัวตอนนี้ก็พอจะหาจุดยืนได้แล้ว คือผมเองก็ไม่ได้ชอบแนวสกปรกอะไรนักหนา คงไม่ได้ทำเวทฌทอริ่งละเลงหนักแบบงาน 3A แต่เอากลางๆพอแค่มีก็พอ เพราะยังไงผมก็ชอบแบบนี้มากกว่า ก็ไม่ได้หวังว่างานจะออกมาดีเลิศอะไรหนักหนา เอาแค่สามารถภูมิใจพูดได้ว่าตรูเป็นแฟนบอย Armored Coreได้เป็นพอ (แต่ฟีมือเล่นเกมส์ก็ยังไม่เอาอ่าวเหมือนเดิม) ซึ่งจากประสบการณ์ทำโม Armored Core มา 20 ตัวจะเอาประสบการณืทั้งหมดทำเจ้าตัวนี้ให้สำเร็จให้ได้


สำหรับตัวโมเดล ถ้าอยากทำแบบ OP ก็คงต้องเวทเธอริ่ง แต่ส่วนตัวคงไม่ทำหนักมากนัก กะว่าเอาแค่ระดับเดียวกับ White Glint 1 ที่เคยทำก็พอ  เพราะส่วนตัวชอบระดับประมาณนั้นมากกว่า  เพราะถ้าเอาจริงๆดูจาก OP ดูไกลๆมันก็ไม่ได้ถลอกจนเด่นชัดอะไรนัก


สำหรับตัวโม อย่างที่บอกว่าอุดขัดเอาใว้นานมากแล้ว ซึ่งชิ้นส่วนดูเหมือนไม่เยอะ แต่....


เริ่มทำการแยกถาด ระหว่างสีดำ สีขาวและชิ้นที่ต้องกั้นพ่น


เริ่มคุ้ยก็เริ่มท้อใจ เพราะชิ้นส่วนถึงจะอัดในกล่องเดียวได้ แต่พอเริ่มคุ้ย...****เยอะอิบอ๊าย   เพราะตัวหุ่นเดี่ยวๆก็เยอะแล้ว นี่ติด VOB ไปด้วยชิ้นส่วนยิ่งเยอะไปใหญ่


แยกชิ้นส่วนเสร็จ แบ่งเป็นชิ้ดขาว / ขาวเล็ก ดำ /ดำเล็ก แล้วก็ชิ้นที่ต้องกั้นพ่น


สำหรับโมตัวนี้ เป็น VOB OP Ver. คือพลาสติกทำสีมุกมาให้ในกล่อง
ชิ้น VOB เป้นท่อๆก้อนๆ เยอะพอสมควร


ชิ้นส่วนเล็กๆเสียวหักเสียวหายก็แยกถาดพิเศษเอาใว้


ชิ้นดำ


สำหรับตัวโมบางจุดผ่ากลางตะเข็บหนา ขัดจนดีเทลหาย จำต้องเพิ่มดีเทลไปเองด้วยแผ่นพลาสติกชีท


สำหรับสีรองพื้นงวดนี้ใช้สีรองพื้นพลาสติกกระป๋องพ่นด้วยแอร์บรัช  เพราะใช้มานาน งานนี้พลาดไม่ได้เลยไม่กล้าเสี่ยงใช้ของไม่ถนัดแล้ว


สำหรับสีรองพื้นอันนี้ข้อดีคือเกาะพลาสติกดี และสีค่อนข้างอ่อน ของSNP มันเข้มมาก พ่นขาวทับยาก กับผสมสีอื่นแล้วแรงยึดเกาะลดลงด้วย


สำหรับสีก็พ่นใส่ขวด โดยการพ่นใส่กรวยสีกระป๋องน่ะแหล่ะ แล้วเทลงขวดเปล่าเหลือๆ รอไปซักพักเนื้อสีมันจะตกตะกอน ส่วนตัวแล้วจะเททินเนอร์ทิ้งแล้วใส่ของไกอาไปแทน


เททินเนอร์เก่าทิ้ง  เพราะมันกัดพลาสติก  แต่ส่วนตัวว่าจะทิ้งหรือไม่ก็แล้วแต่ ไม่ค่อยเท่าใหร่หรอก


เสร็จแล้ว เนื่องจากเนื้อสีมันออกขาวมาก เลยเติมดำลงไปด้วย  ให้ออกเข้มหน่อย ซี่งจากการผสมสีข้ายสูตรนี้ เท่าที่เคยลองมันก็ยังโอเคดี แถมพ่นลื่นง่ายกว่าเดิมด้วย
แต่ของ SNP ลองแล้วแรงยึดเกาะลดลงนะ  สีเทาเข้มไปเอาขาวเติมเหมือนแรงเกาะสีมันน้อยลง  วุ่นวายนักงานนี้เลยกลับไปใช้ของถนัดแล้ว


สำหรับสีอันนี้ข้อเสียคือเก็บนานไม่ได้  คือสีมันจะตกตะกอนง่าย และเก็บนานๆแรงยึดเกาะลดด้วย ทางที่ดีหลังพ่นออกจากกระป๋องลงขวดสีควรรีบๆใช้ให้หมดในอาทิตย์นึง  ตะก่อนเคยเจาะกระป๋องมาเก็บใส่ขวด สุดท้ายก็โยนทิ้งหมด  เพราะสีเป็นเม็ด + รู้สึกพ่นแล้วมันแปลกๆ


สำหรับโมเดล อย่างที่บอกว่าพ่นสีมุกขาวมาไห้ ซึ่งก่อนหน้านั้นก็ลองมาแล้วว่าสีที่พ่นมันจะเกาะดีหรือไม่  ซึ่งก่อนหน้านั้นเคยลองแล้วปรากฏว่าสีเกาะดีกว่าพ่นทับพลาสติกอีก  เพราะสีที่มันโค้ดมาเกาะแน่นดีมาก
สีที่พ่นมาให้นี่ แม้แต่ทินเนอร์ก็ยังล้างไม่ออกแนะเออ.....  น่าจะเป็นสี 2K ที่ใช้ส่วนผสมของสี เรซิ่น และตัวทำละลาย ซึ่งให้แรงยึดเกาะที่สูงกว่า  ส่วนสี 1K จะเป็นสีที่ผสมทินเนอร์อย่างเดียว


เริ่มพ่นสีรองพื้น  ซึ่งผสมสีดำลงไปหน่อยนึง จะได้พ่นทับได้ง่ายขึ้น


พ่นดำลงไป  โดยใช้สีดำ + เงิน + ขาวนิดหน่อย  จากนั้นเติมขาวพ่นไฮไลท์



ซึ่งอย่างที่บอก ก่อนหน้านั้นทำการบ้านมาแล้ว ว่าสีรองพื้นแบบนี้เกาะดี  เพราะถ้าของแบนได พวกตัวชุบสีจะพ่นไม่ติดเลย 
ซึ่งก็ลองขรูดด้วยเล็บ อะไรหลายๆอย่างดู สรุปว่าผ่านใช้ได้เลยใช้

จากนั้นก็กั้นสีดำเพื่อส่นสีขาวกันต่อไป

ซึ่งชิ้นส่วนมันเยอะมาก  เพราะมันเป็นของทั้งตัวหุ่น และ VOB Unit รวมๆแล้วเหมือนทำรวดเดียวสองตัวกันเลยทีเดียว......ท่าจะพ่นกันนาน

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=zBhI8C6r-4A[/youtube]
แล้วเจอกันใหม่.....  ในสนามรบ

[rookie]

เห็นชิ้นส่วนแล้วจะเป็นลม 

[naroki]

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=DiMvZ1DYn4s&feature=related[/youtube]


เริ่มดำเนินการพ่นสีขาวกันต่อ  ซึ่งเป้นส่วนที่เยอะที่สุด


เอา ยูฮูแทคอัดส่วนที่คิดว่าจะมีปัญหา พวกตามข้อพับต่างๆ เพื่อกั้นสี หรือกัดพลาสติกกัด
แต่หลักๆบางส่วนก็ช่างมันไปตายเอาดาบหน้าเอาอาร์ทไนฟ์ขรูดสีเอาก็ได้ (นิสัยไม่ดี)


เริ่มดำเนินการพ่นสีรองพื้นอันเดิม
ที่ลำบากเพราะมันเป็นสีขาว และชิ้นส่วนมันเยอะ   ถ้ามันดำทั้งตัวคงสบายกว่านี้ พ่นแปปเดียวเสร็จ


เริ่มพ่นขาว ด้วยสีไกอา   สำหรับงานนี้ผมกะใช้สีไกอาทั้งหมด เพราะชินกับการใช้งานดี


สำหรับการพ่นขาวข้อดีของสีรองพื้นที่ว่ามาคือสีมันอ่อน ทำให้พ่นขาวขึ้นง่าย ซึ่งของ SNP สีรองพื้นมันออกเทาเข้มมาก ว่าจะพ่นขาวสะอาดทีมีเหนื่อย
สำหรับการพ่น เก็บไฮไลท์อ่อนๆตามนิสัย แต่จริงๆแล้วทำสีแนวถลอกทั้งตัวพ่นไฮไลท์ไปก็โดนเวทเทอริ่งกลบหมดอยู่ดี......


พอพ่นเสร็จ ก็พ่นเครียร์เงาทับต่อเลย เพราะตัวนี้จำเป็นต้องติดดีคอลด้วย


พ่นสีขาวส่วนที่เหลือต่อ


พ่นไปพ่นมา เอิ่ม.....   พอดีช่วงนี้ฝนตกทุกวัน เลยเสี่ยงตายพ่นสีตอนฝนตก  ผลที่ได้ก็อย่างที่เห็น.....


พอดีขณะพ่น ลมมันพัดพาชิ้นส่วนกระเด็น ก็เลยเอื้อมมือไปเก็บ แต่มือดันไปโดนขวดสีหกหมด........ ในขณะที่หก สีเหลือประมาณครึ่งขวดเลยนะเออ....
ซึ่งสุดท้ายก็เหลือสีเพียงนิดเดียว และไม่มีขวดสำรองด้วยจำต้องหยุดงานแต่เพียงเท่านี้
ซึ่งส่วนตัวก็ไม่อยากแนะนำให้พ่นสีตอนฝนตกน่ะนะ เพราะสีมันจะแห้งช้าเพราะความชื้น สีพ่นออกมาสีเพี้ยน สีด้าน และอื่นๆอีกมากมาย แต่ส่วนตัวคิดว่าคอนโทรลได้ แต่ปัญหาคือพ่นสีตอนฝนตกทีไรนี่ต้องเจออะไรแปลกๆ ดวงซวยๆเสมอไปสิน่า......

300 บาท หายไปกับสายฝน....... 


สุดท้ายก็เอาสีที่เหลือ พ่นไปในบางจุด ที่จำเป็นต้องกั้นพ่นสีแบบสาหัส


ซึ่งดังจะเห้นว่า ตัวVOB นี่มันก็กั้นพ่นกันสาหัสพอสมควร เลยพ่นชิ้นกลมๆข้างๆให้เสร็จๆไปก่อน จะได้กั้นพ่นสีเอา เพราะชิ้นอื่นกั้นพ่นไม่ได้โหดร้ายอะไรมากนัก


เริ่มดำเนินการกั้นพ่นสีกันต่อ  เพราะสีหมดแล้ว.........

อุดขัด กั้นพ่น ครบเครื่องจริงๆ  .............

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=z37MiCiKpqg[/youtube]

[naroki]

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=fHJiC0pjIRw&feature=related[/youtube]


หลังจากที่สีหมด ก็ไปซื้อมาเติม......

สีของไกอา ถ้าจะเอามาพ่น ผมต้องเติมทินเนอร์ให้มันเหลวลงตลอดเลย เพื่อให้มันเจือจางไม่งั้นอัดแอร์บรัชแล้วตันตลอด
สำหรับสีขาว ผมจะหสมทินเนอร์+สี ให้เหลวพอสำหรับพ่นใว้เลยขวดนึง เพราะสีขาวมันพ่นยาก กะทินเนอร์ลำบาก
หรือเพราะแอร์บรัชผมใกล้พังแล้วก็ไม่รู้ รู้สึกหลังๆปัญหารุมเร้าบ่อยมากๆ


มาพ่นสีขาวของ VOB ทีี่่ค้างจนเสร็จจนได้


ชิ้นเทาที่พ่นไปก่อนหน้านั้น เอามากั้นพ่น  ชิ้นส่วนเล็กมาก บังกันจนตาเหล่




เอาไปพ่นสีกันต่อ


ถ้าเสร็จแล้วก็พ่นเครียร์ทับไปเลย  เพราะตัวนี้ต้องติดดีคอลด้วย


ในที่สุดก็เสร็จซะที สำหรับสีขาว


ที่อยู่ในถาดทั้งหมดนี่  คือชิ้นที่ต้องเอามากั้นพ่นเพื่อพ่นสีเทากันอีกที.........
สำหรับตัวหุ่นว่าแย่แล้ว  ส่วนของ VOB นี่แหล่ะนรกชั้นดี  เพราะแทบไม่มีการแยกสีมาให้เลย (กลับไปดูรูปบนๆ)
รวมๆก็กั้นพ่นเล็กๆน้อยๆเต็มไปหมด ......


เริ่มว่างหันมารีวิว  ในที่สุดก็ซื้อมาจนได้ กับ Ultimate White ของ ไกอา


สำหรับชิ้นงาน  ใช้สีรองพื้น + ดำ แบบที่พ่นไวท์กริ้นพ่นลงไปก่อน เพราะพึ่งพ่นสีขาวธรรมดามา ฉะนั้นจะจำได้แน่นอนว่ามันแตกต่างกันเพียงไร



รวมๆก็ไม่ได้พ่นขึ้นง่ายมากจนถึงกับอุทานหรือร้องโอ้โหอาหาอะไร  รวมๆผมว่ามันคลุมโทนง่ายขึ้นมากกว่า  คืออันที่จริงคนที่ชินกันสีขาวแล้วมักจะผสมให้มันข้นหน่อยๆ เพื่อที่จะพ่นสีขึ้นง่าย  แต่ตัวนี้มันผสมไม่ต้องข้นมาก ก็ขึ้นง่ายแล้ว ประกอบกัยคลุมโทนง่าย แล้วก็ไม่ต้องพ่นหลายชั้น รวมๆแล้วใช้งานง่ายกว่าสีขาวธรรมดาราวๆ 30%  แต่สีขวดนี้ก็ราคาแพงกว่าสีธรรมดาราวๆ 30% เหมือนกันนะ........  แต่เทียบกับสีขวดใหญ่ไกอา  สีขวดใหญ่ของไกอาก็ยังคุ้มกว่าอยู่ดี


เทียบกับสีธรรมดา จะเห้นว่าพ่นขึ้นง่ายกว่า แต่ทั้งนี้ทัั้้งนั้นมันก็ขึ้นกับปริมาณทินเนอร์ที่ผสมด้วย
รวมๆก็ไม่ได้พ่นง่ายขึ้นง่ายมากมายนัก  แต่ก็ถือว่าพ่นง่ายขึ้น  แต่ก็แพงขึ้นด้วย
รวมๆ เหมาะกับมือใหม่อยากลองสีขาว เพราะสีขาวมันพ่นยาก อาจจะพอช่วยได้  หรือ พ่นเพื่อรองพื้นสีขาวก่อนพ่นสีแดง  เพราะมันพ่นขึ้นง่าย ทำให้ไม่ต้องพ่นทับหลายๆรอบ สีจะได้ไม่หนา
แต่รวมๆแล้วสีขาวขวดพี่บิ๊กก็ยังคุ้มกว่าอยู่ดี แต่ก็ถือว่าดี เพราะมันพ่นง่าย มีเก็บติดตัวก็ถือว่าโอเค แต่ไม่ได้เปี้ยงปร้างถึงกับต้องขวรขวายหามาใช้ให้ได้  แต่มีแพลนจะเอาอัลติเมทไวท์มาประจำการเยอะขึ้น เพราะมันก็พ่นขึ้นง่ายอ่ะแหล่ะ แพงกว่าก็จริง แต่ผมมันขี้เกียจอ่ะ.... 

รวมๆ เทียบกับสียี่ห้ออื่นๆ  ไกอาธรรมดา  พอๆกับ SNP นะ  แต่ดูไกอาจะพ่นไล่ง่ายกว่า ส่วนอัลติเมทไวท์ ก็พ่นขึ้นง่าบขึ้นจริงๆน่ะแหล่ะ  แต่ออกแนวพ่นง่ายมากกว่า เหนื่อยแรงน้อยลง


งานต่อไป ก็เหลือแค่พ่นดำ.....  แต่กว่าจะกั้นพ่นเสร็จ  คงอีกยาว.......

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=rwcghRFljZ8&feature=ytu.be[/youtube]

[San]

ไวโคตรๆ มิน่าดองตัวนี้ ไว้ท้ายๆ เหอะ สั่งสมประสบการณ์นี่เอง  (อย่างนาโรนี่ต้องสั่งสมประสบการณ์ด้วยรึ o_0!!!)
สีขาวเบอร์ 31 อัลติเมทไวท์ นี่ สอยมาเหมือนกันเมื่อวันเสาร์นะ เหอๆ ยังไม่ได้ลอง
พอดีเข้ามาดู โอเชเรย เเบบนี้นี่เอง มิน่า คนเริ่มใช้กันเยอะเเระ 555
ประหยัดเวลาดี  เอาเวลาไปเล่นเกม 555

[kana-art]

ทำงานได้ละเอียดจริงๆ เก็บรายละเอียดหมด

[naroki]

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=YOua-S9q4pM[/youtube]


เริ่มกันต่อกับการกั้นพ่น หลังพ่นขาวเสร็จก็เหลือแค่สีโทนดำ


ในส่วนของตัวไวท์กริ้น กั้นพ่นไม่ยากนัก หลายๆจุดฉีกจากเทปแปะตรงได้เลย


บางชิ้น ซับซ้อนนิดหน่อย  เน้นกั้นน้อย แต่เยอะมากกว่า


ชิ้นส่วนที่ซับซ้อน เวลาพ่นต้องระวังเทปกาวหลุดกระเด็ด ซึ่งเจอบ่อยมาก....


ส่วนของ VOB นี่สิ  ของจริง.....


ท่อพลังงานต้องกั้นทุกต่อ แต่อันนี้ไม่ยาก ฉีกเทปจากม้วนไปแปะได้ง่ายๆ  มีตรงแกนรับเกราะข้างที่ดูซับซ้อนมาหน่อย


เริ่มปวดหัวขึ้นมาหน่อย  เนื่องจากชิ้นส่วนทั้งเล็ก และเยอะ


ที่เหนื่อยคือพวกชิ้นกลมๆนี่แหล่ะ  เพราะกั้นให้โค้งยาก


อันนี้สิหนักจริง....  ทั้งเล็ก ทั้งเยอะ ซี่เต็มไปหมด กั้นไม่ยาก แต่เน้นพลังอึดเป็นหลัก.......
ซี่เล็กๆไม่พอ มีตั้งสองด้าน คูณสองอีก....


ชิ้นของปีกไวท์กริ้น


รวมชิ้นส่วนที่ต้องกั้นพ่นของVOB ทั้งหมด  ซึ่งอันที่จริงมันแทบไม่ได้แยกสีหรืออำนวยความสะดวกอะไรให้เลยเน้นเหมือนของแถมเป็นหลัก


พ่นสีเทาเหมือนเดิม  โดยใช้สีดำ + น้ำเงินนิดหน่อย + เงินนิดหน่อย ของไกอา
+ ขาวพ่นทำไฮไลท์นิดหน่อย ตามนิสัย


พ่นชิ้นเหลือๆ เป็นอันจบกระบวนการพ่นสีเทา


ชิ้นส่วนเล็กๆ เช่นที่นิ้วที่เป็นสีเทา ก็ใช้ทาเอา หรือกั้นพ่นพลาดก็ทากลบเอา


ขั้นตอนที่เหลือ ก็ติดดีคอล เก็บลายละเอียด แล้วก็เวทเทอริ่ง เป็นอันจบ
ฟังเหมือนง่ายจังวุ้ย.........  แต่ผ่านนรกกั้นพ่นมาได้ก็ดีใจแล้ว เฮือก.....

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=iJ5MXoXBtQw&feature=related[/youtube]

[kana-art]

อีกนิดเดียวก็จะเสร็จแล้ว  ปูเสื่อรอชม


ปล.ท่าทาง คุณnoroki จะใช้เทปสำหรับกันพ่นเปลืองน่าดูเลย ม้วนหนึงใช้ทำได้ประมาณกี่ตัวครับ

[opera]

ขยันสุดๆ มาร่วมติดตามชมและเก็บความรู้ครับ

[jackal]

งานโหดมา พลังชีวิตท่านช่างล้นเหลือ ไว้จะเคล็ดลับจากท่านมั่ง

[San]

ดูจากภาพเเระ  มัน ...นรกบังพ่นจิงๆ......... สุดยอดมาก

[kit556]

งานเยอะมาก ขยันจังครับ 

[naroki]

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=EMhmKXYMEdo[/youtube]


เทปกาวนี่พูดยากครับ แล้วแต่ตัวด้วย  โมโคโตก็ใช้เยอะหน่อย 555  รวมๆก็3-5 ตัวต่อม้วนน่ะ


มาว่ากันต่อหลังพ่นสีเสร็จ  แยกถาดแยกสี


ชิ้นส่วนที่ต้องเอาไปทาสีทั้งหมด  อาจจะเกิดจากการกั้นพ่นพลาดหรือเล็กมากจนต้องทาเอาก็แล้วแต่


ชิ้นส่วนที่เหลือ หลังทาซ่อมเสร็จก็จะเอามาประกอบ
...........แค่เห็นชิ้นส่วนก็ปวดหัวแล้ว


ชิ้นส่วนร้าว..... หลังยัดชิ้นงานกัน
เพราะตัว OP Color นี้เขาพ่นสีมาให้อยู่แล้ว ทำให้สีค่อนข้างหนา พอเราพ่นสีทับลงไป + เครียร์อีกเลยยิ่งหนากันไปใหญ่  พาลฝืนยัดที่ทากาวใว้มีปริได้เลยทีเดียว....


เลยต้องมานั่งขรูดสีออกจากเดือย..... พูดเหมือนง่าย แต่กลับไปรูปบนๆซะก่อน แค่เห็นชิ้นส่วนเต็มถาดแถมยังชิ้นเล็กๆอีกตะบึม แค่เห็นก็กุมขมับแล้ว
ทางที่ดีเอา Uhu แทค อัดเพื่อกันสีตามเดือยจะช่วยได้เยอะ แต่ผมมันพวกมักง่าย ขี้เกียจอ่ะ


เริ่มยัดชิ้นส่วนต่างๆ จนเริ่มเป็นตัว


ขั้นตอนต่อไป ติดดีคอล


สำหรับเวอร์ชั่น Opening Color นี้ จะแถมดีคอลมาให้ด้วย  แบบปรกติจะไม่แถมมาให้
ซึ่งผมซื้อเวอร์ชั่นนี้เพราะอยากได้ดีคอล  แต่สีที่มันพ่นมาให้ทำให้ปวดหัวพอสมควร ถ้าจะทำสีทับ อย่างน้อยก็ยัดแล้วชิ้นส่วนปริละอย่างนึง.....
แต่ช่างมัน ทำสีแนวถลอกอยู่แล้ว อย่าคิดมาก เถไถได้


ดีคอลติดบั้งข้าวหลามชิ้นใหญ่มาก  เวลาติดต้องระวังพวกฝองอากาศ ไม่งั้นจะถลอกง่าย


หลังติดเสร็จ รอให้แห้งซัก 1 วันก่อนพ่นเครียร์


รอวันฝนไม่ตก พ่นเครียร์ด้าน เพื่อเตรียมวอชต่อไป

ธรรมดา ผมจะใช้สเตปพ่นเครียร์ วอช ติดดีคอล พ่นเครียร์ด้าน แต่รอบนี้จะใช้พ่นเครียร์ ติดดีคอล พ่นเครียร์ด้าน วอช แล้วก็ติดเครียร์ด้าน  เพราะว่ากะจะทำสีแนวถลอก

เคยพ่นเครียร์เงาก่อนทำสีแนวถลอกแล้ว ไม่ค่อยเวร์คเท่าใหร่  เพราะสีมันมัน ทำให้ดรายบรัช หรือเวทเธอริ่งทำคราบไม่ค่อยติดเท่าใหร่ เพราะสีพื้นมันเงาและลื่น พ่นเครียร์ด้านจะทำให้เวทเธอริ่งได้ง่ายกว่า


พ่นชิ้นที่เหลือต่อ  หลังจากนี้คือของจริง งานจะออกมาดีไม่ดีสำหรับตัวนี้อยู่ที่การเวทเธอริ่งนี่แหล่ะ.......

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=t8LCPD9qv2k[/youtube]

[Araragi]

คุณnaroki จะโชว์ Featuring ... เอ้ย เวทเธอริ่ง น่าติดตามอย่างยิ่ง

[San]

จะเอาเก่ามาก รึเก่าน้อยละ ตัวนี้ เหอๆ...

[BOY]

คุณนาโรใช้เทปทามิย่าได้คุ้มจริงๆ  ผมว่าใช้ดีที่สุดแล้วมั๊งติดแล้วไม่ทิ้งคราบกาวหรือลอกสีหลุดมาด้วย

[naroki]

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=DPYgd0pd9ik&feature=relmfu[/youtube]


มาต่อที่การเวืเธอริ่ง

อันที่จริง  เอาตรงๆ  ผมทำสีแนวเขรอะไม่ค่อยเก่งอ่ะ  ธรรมดาเน้น + ถนัดแนวสะอาดมากกว่า เนื่องจากไม่เก่งเลยไม่กล้าเสี่ยงใช้เทคนิคอะไรแปลกๆ  งานนี้จะใช้เทคนิคเดิมที่เคยใช้บ่อยๆ คือวอชทามันทั้งชิ้น แล้วเช็ดเอาเหลือคราบสกปรกเอา


สำหรับชิ้นขาว ซึ่งเป้นชิ้นหลัก  จะใช้สีเอนาเมล ดำ+ ขาว ให้ออกเทาๆ  ทาเอาทั้งชิ้นงาน


เริ่มทำการเช็ด  โดยเช็ดให้เหลือคราบสกปรกใว้ตรงตามขอบมุม


การเช็ด อยากแรงแค่ใหน Hard Core แบบใหนก็สุดแต่จะเช็ดตามใจแต่ละคน




ซึ่งการเช็ด ส่วนตัวจะค่อยๆเช็ดนะ อย่างในรูปก็มองว่าสกปรกไปนิด  เดี๋ยวเช็ดเพิ่ม


ทำการเช็ด เหมือนพ่นไฮไลท์  คือเช็ดตรงกลางๆออกก่อน


จากนั้นเช็ดรอบสอง


สำหรับการเช็ด  ถ้ากระดาษชุ่มสีเยอะแล้วควรเปลี่ยนออก  เพราะถ้าใช้ต่อเวลาเช็ด ทิชชู่จะปล่อยน้ำมันสีที่อมออกมาด้วย
ส่วนทิชชู่ที่ชุ่มสี  เอาไปแปะๆ ทำคราบได้นะ กรณีเช็ดออกเยอะเกิน (กลับไปดูตอนทำ nineball ได้ เคยพูดไปแล้ว)


เริ่มเอามาประกอบดูคราวๆ  ว่ารวมๆแล้วเป็นอย่างไรบ้าง


แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น  ถ้าดูจากคอนเซปอาร์ท จะเห็นว่ามันก็ไม่ได้สกปรกอะไรมาก  ตัวปัจจุบันดูคราบละเลอะกว่าพอสมควร  เลยเช็ดสีออกเพิ่มไปอีก


หลังเช็ดออกเพิ่ม


ตามขอบมุม เดี๋ยวเอาภู่กันมาทำรอบถลอกตามขอบมุมต่อ 


เช็ดออกไปเพิ่มให้ดูสะอาดขึ้น


ด้านหลัง






ทั้งนี้ทั้งนั้น แค่นี้ยังไม่เสร็จ  เพราะต้องไปทาทำรอยถลอกตามเหลี่ยมมุมอีก  เพราะชิ้นเล็กๆจะเช็ดให้เหลือเหลี่ยมมุมค่อนข้างยาก

ส่วนหน้าอกเหมือนเช็ดออกมากไปนิด  เดี๋ยวไปทำคราบเพิ่มอีกซักหน่อย


สำหรับการทำงานเวทเธอริ่งนี้ การทำงานค่อนข้างช้ามาก  เพราะใจร้อนไม่ได้  ถ้ารีบเช็ดออกไวๆ  สีมันจะออกหมด ต้องค่อยๆเช็ด 



งานนี้ ถึงจะเป็นรูปเป็นร่างแล้วแต่ก็ยังอีกยาว นี่แค่สีขาวยังเหลือของ VOB อีกเต็มกล่อง ยังไม่นับสีเทาที่ยังไม่ได้เสทเธอริ่งเลย
สำหรับการทำสี จะใช้สูตรเดิม วอชสีขาว จากนั้นเพ่นเครียร์ แล้วทาเก็บคราบถลอกตามขอบ ส่วนสีเทาจะเวทเธอริ่งด้วยเทาอ่อน พ่นเครียร์ ตามด้วยดรายบรัชต่อ....

งานนี้ยังอีกยาว ..........  กันดั้มธรรมดา 1-2 อาทิตย์ก็เสร็จ  แต่พวก AC นี่ยังไงก็ 3 อาทิตย์ขึ้น......

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=-tWWe3u4uiU[/youtube]

[kana-art]

พอวอชแล้วดูมอมแมมเชียว เหมือนผ่านการใช้งานมาอย่างสมบุบสมบันจริงๆ 

[opera]

พอวอชแล้วดูมีมิติมากเลยครับ รอชมต่อกันยาวๆ

[naroki]

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=esdxY39uq2U[/youtube]
ช่วงนี้ป่วยหนักมากครับ  เลยหยุดยาว 
ไม่ได้หนีไปเล่น Resident Evil 6 จริงๆนะ.....



มาต่อกันที่สีเหลือๆที่ยังไม่ได้พ่น


แผงดำ  พ่นมันทั้งแผง แล้วค่อยมาตัดเอาทีหลัง  เพราะหลังประกอบไปแล้วจะมองไม่เห็นรอยแผลตัด


พ่นสีครบแล้ว  เหลือแต่สีดำ ที่ยังไม่ได้วอช


ชิ้นดำ.....  ดูเหมือนน้อย  แต่ชิ้นเล็กๆเยอะมากชวนปวดหัวเช่นกัน


สำหรับโมตัวนี้  ผมทำชิ้นส่วนหายอยุ่ 2 จุดครับ  คือ แผ่นฟริบด้านหลัง  หายไปทั้งชิ้นเลย 1 ชิ้น
ซึ่งก็ต้องสแครชเอา  โดยยังขยับได้ เพราะใช้ลวดเป็นแกนให้มันหมุน  จะหลวมกว่าของแท้นิดหน่อยแต่พอไปได้
ซึ่งอันที่จริงโมอาร์เมอร์ดคอร์ผมทำชิ้นส่วนหายไปหลายตัว ต้องมานั่งสแครชแก้ซะก็หลายตัวละ
อีกอันก็แพคกระสุนของปืนที่แขน  อันนี้ลักไก่เอาของ Ambient ที่ถือปืนแบบเดียวกันมาใช้ก่อน  แล้วค่อยสแครชใช้คืนทีหลัง


สีดำ จะวอชด้วยสีดำ + ขาว ให้ออกเทาหน่อย


............ชิ้นส่วนเยอะมาก  แถมชิ้นเล็กๆซะก็เยอะ


ปวดตับหนักเข้าไปอีก  เมื่อสีเอนาเมลมันใหลเข้าไปในร่องจุดขยับ  แล้วทำจุดขยับบริเวญใหล่ที่ใช้ในการแปลงร่างหัก....
หลังจากพิจารณามา สุดท้ายก็จำใจติดกาวตายให้แปลงร่างไม่ได้ไปเลย  เพราะถึงเอากาวอะครีริกซ่อม  แต่มันรับน้ำหนักเยอะ  ยังไงซักวันก็แตกแหงๆ แล้วจะซ่อมสียาก
ซึค่งการทำสีแบบใช้สีเอนาเมลชะโลมให้ทั่วนี่ ทำชิ้นส่วนแตกมานักต่อนักแล้ว  ยังไงก็ระวังกันหน่อยละกัน เฮ้อ



หักอีกจุด  แต่อันนี้ซ่อมง่าย  ฝังแกนเหล็กโลด


สีเทา  ก็วอชแบบให้เหลือคราบสกปรกพอสมควร  อยากแรงแค่ใหหนก็ตามใชคนเช็ดล่ะนะ




ลองประกอบเทสคร่าวๆ
ไอพ่นข้างเอว รอซ่อมอยู่
ที่เหลือก็ทาสีทำรอยถลอกตามสันมุมต่างๆ กับ ดรายบรัชชิ้นสีดำ


พ่นเครียร์ไปอีก 1 รอบ ก่อนทำการดรายบรัช + ทำรอยถลอกเพิ่ม
เพราะไม่งั้นถ้าทำสีแรงไปแล้วอยากลบ  มันจะลบคราบรอชแรกที่ทำไปทั้งหมด  เลยพ่นเครียร์เพื่อกันคราบที่ทำรอบแรกไป ไม่งั้นเช็ดทีหายหมด


สำหรับแผ่นฟริบด้านหลัง  สแครชทั้งอันจากแผ่นพลาสติกชีส  หลังทำสีเสร็จก็โอเคดี ดูไม่ค่อยออกว่าซ่อมงานเอา แล้วก็ยังขยับได้เหมือนเดิมด้วย
นี่แหล่ะ คือโทษของการดองโม....... เก็บใว้นาน ไม่รู้เอาไปมหกใว้ที่ใหน เฮ้อ..............

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=_kVCq7BufeE&feature=related[/youtube]