พอดีช่วงนี้มี gap ว่างๆ ระหว่างย้ายงาน เลยได้มีโอกาสมานั่งประกอบ+ทำสีโมเดล
ปกติแล้วจะพยายามเลี่ยง scale 1:144 เพราะมันตัวเล็ก ทำอะไรไม่ค่อยถนัดมือ แต่ก็มียกเว้นบ้าง
ตัวนี้ก็เพราะดูแล้วไม่มีหวังว่าจะออก 1:100 หรือ MG แน่ๆ ไหนๆละก็มี pilot ออกมาคู่ด้วยก็เลยกลายเป็นทำคู่ Demi Barding+Chuchu ไปเลย
เริ่มจาก Chuchu กันก่อนเลย
ตัวนี้เป็น plamo Figure-rise Standard เนื้อพลาสติกจะอ่อนกว่าพวก HG/MG ที่เป็นตัวหุ่น เวลาใช้กระดาษทรายขัดต้องระวังกว่าทำปกติเพราะว่าเผลอแรงไปแล้วจะกินเนิ้อเข้าไป
หน้าให้มาสามแบบ แบบ print มาแล้วหนึ่ง อีกสองต้องมานั่งเล็งติด decal น้ำเอง เล็งกันมันส์+มีเบี้ยวบ้าง
จำนวนชื้นส่วนมีเยอะกว่า Figure-rise ปกติหน่อยเพราะมีส่วนของลำตัวสำหรับนั่งโพสท่า
ชิ้นส่วนส่วนใหญ่ตัดออกมาแล้วแทบประกอบได้เลย plastic gate ซ่อนหลบในแทบทุกอันแถมยังพลาสติกฉีดมาเต็ม ไม่มีรอยแม่พิมพ์อีก
ที่จะมีปัญหาก็คือชิ้นส่วนที่ต้องประกบกลางอย่างส่วนผม pom pom กลมๆที่ขัดออกง่ายเพราะพลาสติกบาง กับส่วนของเสื้อ jacket ซึ่งก็น้อยมาๆ
pose แบบหน้ากล่องได้อยู่ แต่ต้องคอยดัดทรงดีๆ
ด้วยที่ว่าชื้นส่วน jacket เป็นส่วนประกบแยกจากชุดปกติ เลยเล็งๆชื้นส่วน Figure-rise Miorine มาทำส่วนแขน เลยตัดสินใจสั่งมาทำ
ตัว Figure-rise Miorine ชื้นส่วนง่ายกว่า+ประกอบง่ายกว่า ข้ามไปเลยละกัน 5555
ใบประกอบ Miorine ให้คู่มือส่วนของการติด decal มาด้วย ของ Chuchu นี้ชื้นส่วนเยอะกว่า+ราคาสูงกว่า ต้องมาให้นั่งเล็งแล้วเล็งอีกแบบไม่มีคำแนะนำกันเลย
Miorine ประกอบเสร็จแล้วสูงกว่าหน่อย แต่ความยาวแขนเท่ากัน Chuchu ที่ตัวเล็กกว่า !!!!!
เอาไปประกอบกับ Chuchu ได้ค่อนข้างพอดี มีแต่ส่วนของแขนกับไหล่มี gap นืดหน่อย แต่กดเข้าไปจนสุดก็เข้าได้พอดี
Chuchu แบบถอด Jacket นี่แทบไม่เห็นได้เห็นกันเลย
ต่อกันเลยกับ Demi Barding
มาเกรินกับข้อมูลหุ่นกันก่อน
MSJ-R122 Demi Barding เป็น MS ที่สร้างสำหรับพัฒนาและทดสอบของ บ. Burion ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผู้ผลิต MS ใน Mobile Suit Gundam the Witch from Mercury
แนวทางพัฒนาและผลิตขายของ Burion นั้นเน้นหุ่นที่เรียบง่ายในการใช่งานและการบำรุงรักษา ทำให้แค่มีความรู้วิศวกรรมพื้นฐานก็สามารถนำมาใช้งานได้ (อันนี้มาจากข้อมูลใน series นะ บอกมาอย่างนี้เลย )
เอาเข้าจริงเท่าที่ดู series Gundam มา Demi series นี่ concept สมกับเป็น mass production จริงๆตัวนึงเลย ประสิทธิภาพไว้ใจได้ มี hard point ปรับแต่งตามได้ตามสถาการณ์การใช้งาน
รวมถึงอะไหล่เรียบง่ายกลับซ้ายขวาได้หมด เห็นได้จาก Demi Series ที่แทบจะมีส่วนประกอบร่วมและสมดุลซ้ายขวา (แขน ขา สลับกันได้หมด รวมถึง manipulator ที่มีนิ้วสามนิ้วทำให้ใช้งานได้ทั้งซ้ายขวา)
ซึ่งรวมถึง Demi Barding นี้ด้วย ที่ส่วนของ Baori Pack กับ Wheel Dash Boost รวมถึง sholder booster นี่ก็เป็นแค่ส่วนเสริม
ขนาด beam saber ยังเป็นส่วนเสริมที่ติดกับ Wheel Dash Boost ที่ขาเลย !!!!!
ปกติแล้วพยายามเลี่ยงของที่ scale เล็กเพราะทำลำบาก + บางทีเผลอๆหลุดมือนี่หายไปง่ายๆเลย (ขอบ่นอีกรอบ )
ด้วยที่ว่าเป็น series Demi ก็ใช้ชื้นส่วน Demi Trainer 80% ได้ ส่วนที่เป็นของ Demi Barding มีแค่ Baori Pack กับเพราะแขน+ส่วนเสริมขา
ต่อ HG หลังจากต่อ Figure-rise นี่คนละอารมณ์มาก
Figure-rise ใช้กระดาษทราย 600 ลูบๆ แล้วตามด้วย 1000 gate ก็แทบหมดแล้ว แถมลายพลาสติกกับรอยบุุ๋มแทบไม่มี
HG นี้ถึงเป็นรุ่นใหม่ๆ ซ่อน gate ดีแล้ว แต่ก็ยังมีลายพลาสติกกับรอยฉีดตามชิ้นส่วนหนาๆ
ลงมือขัดดด้วย เบอร์ 120 > 600 > 800
ส่วนมือมี Fist Vulcan ติดอยู่ เลยเจะรูด้วยสว่าน 0.5 mm
คราวนี้มาลองของใหม่กัน (จริงๆซื้อมานานหลายปีแล้วแต่ขี้เกียจเอามาใช้งาน )> wireless LED เลยลองเอามาใช้งานกับตัวนี้ซะเลย
spec wireless LED ตัวนี้ใช้ Driver 5V ต่อกับ USB-A ได้สบายๆ
ระยะห่างจากตัวขดลวดถึง LED bit สูงสุดประมาณ 8 cm
ทำการเจาะรูชิ้นส่วนที่จะติด+ เหลาแกนพลาสติกใสให้เข้ากัน
เวลาตั้งโชว์ เอาขดลวดไปวางไว้ข้างหลังในระยะ 7 cm ได้พอดี
แต่ถ้าอยากได้สว่างๆ ต้องไปไปคล้องกับตัวสงสัยคราวหน้าต้องซื้อ LED bit แบบต่อสายยาวมาใช้งานแทน
หลังจากประกอบสร็จ ก็มารื้อมาทำสี
คราวนี้ขี้เกียจเปิด airbrush เลยใช้สีกระป๋อง + paint เป็นหลัก
ใจจริงแล้วตอนแรกส่วนสีดำกะจะใช้คู่สี เทา+Midnight Blue แต่ถ้าทำแล้วอาจดูไม่เหมือนหุ่น Mass ธรรมดา เลยใช้แต่ Flat Black (จริงๆขี้เกียจ ทำแต่สีดำไปเลย )
เริ่มจากพ่นพื้นผิวด้วย F-14 Flat Black ไว้เวลาถอดชิ้นส่วนเข้าออกถ้าสีกระเทาะก็จะเห็นเป็นรองพื้นตัวนี้ ดูดีไปอีกแบบ
ส่วนสีขาวพ่นด้วยสีขาวธรรมดา
สิ้นส่วนเกราะ paint ด้วย XF-4 Yellow Green
ติด decal น้ำที่ได้มาจากของเหลือของตัวเก่า
เดินลายด้วย Panel Line Brown
แล้วปิดท้ายด้วยพ่น Layland F-76 Flat Lacquer ทิ้งไว้สักพักแล้วปิดด้วย F-75 Clear Lacquer
Decal จาก MG label พวก warning ทั้งหลาย ติดตาม Hard Point
ส่วนของเกราะแขนตัดสินใจ paint แค่เพราะภายนอก ส่วนเสริมให้เป็น flat black ไว้ เพราะได้อารมณ์ ส่วนเสริมมากกว่า (จริงๆแล้วก็ขี้เกียจอีกแล้วนั่นล่ะ )
เสร็จแล้วมาเข้า booth ถ่ายรูป
ปิดท้ายด้วยเรื่องน่ากลัวสุดๆหน่อย
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เรื่องมีอยู่ว่าปกติจะทำ list ของใน excel ว่ามีกล่องไหนทำไปแล้วหรือมีอะไรอยู่ใน stock บ้าง
หลังจากทำเสร็จแล้วจะไป update ไฟล์แล้วเจอว่ามี Miorine อยู่ใน list แต่คุ้นๆว่าไม่เคยได้ซื้อ
ไปค้นในตู้เก็บแล้วก็มีจริงๆด้วยสิ แถมเป็น Suletta+ Miorine อีกตะหาก
เลยไปค้นเมล์ order แล้วเจอว่าตอน Figure-rise สาย gundam ออกใหม่ๆ
เคยมีสั่ง pre-order Suletta+ Miorine ไปเพราะอยากสนับสนุนให้ทำต่อออกมาเรื่อยๆ
อนาคตเผื่อได้ทำคู่กับ pilot บ้าง
แน่นอนตอนนี้ มี double Miorine เรียบร้อย
พี่ๆเพื่อนๆ เวลาซื้อของควรเช็คก่อนว่าที่บ้านมีอะไรอยู่แล้วบ้างนะ 55555
เมื่อยุคแห่งไฟค่อยๆมอดดับ หากยังคงเหลือซึ่งความหวัง ก็จะไม่ตกสู่ความมืดมิด....
สวัสดีครับทุกๆท่าน ขอนำเจ้า SD MK-II Drangleic Knight อัศวินกันดั้มจากโลก Dark Souls 2
มาลงให้ได้ชมกันครับ เติมสมาชิคเอสดีอัศวินภายในบ้านซักหน่อย
work in progress ระหว่างทำสี
ด้วยความที่มีโครงของเจ้าอัศวินอยู่แล้ว ตบแต่งปั้นส่วนหน้าใหม่นิดหน่อย
เลือกทีมสีโดยอิงความเป็น Gundam MK-II กับกันดั้มอัศวิน ขอสดใส สดใส ขึ้นมาหน่อยละกัน
สีขาว วาดตา ทาสีดาบ โล่ เรียบร้อย
มุมต่างๆ ของเจ้าอัศวิน
เปลี่ยนอาวุธ ขวานทองคำ
ดาบคู่กุ้พิภพ
เพื่อนร่วมรบ หรือจะเรียกว่ารุ่นพี่ก็ได้อยู่
Hollow Mk-II แม้จะโดนคำสาปกลื่นกินไปบางส่วน แต่ยังคงมีสติ
!!!!! อัศวิน แฟนท่อมสี่เทา เขาจะเป็นมิตรหรือศัตรู
ขอบคุณทุกๆท่านที่เข้ามาชมครับ
เดี๋ยวจังหวะได้จะทำพวกเอสดีเพิ่มครับ เติมกองกำลังอัศวิน >w<
Offart กับ สารพัด สารพัน
http://www.facebook.com/Off.Art.Onn
https://www.youtube.com/shorts/gyc_mpjL8iA
ดูเขาแยกสีออกมาดีเหมือนกันนะครับ แต่เรื่องราคานี่ต้องทำใจ ตัวแรกยัง 3000 เลย ดีใจเช่นกันที่ไม่ใช่ P-Bandai ว่า แต่มันมี SideStory ตัวนี้ให้ออกไหมละ
ตัวอื่นที่อยากให้ออกคงเป็น MG Gp01 เช่นกันครับ
ตอนนี้สนุกกับการทำโมเกรดเก่า จนบางครั้ง ผมรู้สึกสนุกกว่าตอนต่อโมรุ่นใหม่ๆด้วยซ้ำ ชอบเหมือนกันครับที่ใช้ Part เหลือจาก P-Bandai มาทำ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ทำ Galbady ต่อนะครับ
ตัวน้อง คนขับผมว่าวางคู่กับ Quebeley จะดีกว่า ผมชอบน้อง Rosamia มากกว่า
: MG Gelgoog 2.0 Johnny Ridden used
: Modeled by EVA-01
: Photo by พี่บอย TG
วันนี้นัดมาแอบเจอกับพี่บอย นัดเอาของมาส่ง เติมความหวานเบาๆ ฉิบชาเขียวกินหนมปังฉ่ำๆ เลยถือโอกาส
ถ่ายรูปมาลงสักหน่อย ทำสีเสร็จนานแล้วตั้งแต่งาน Ace Pilot ครับ(ย้อนดูได้ในกระทู้ Show Off)
ในส่วนการทำงานก็ไม่ได้มีเพิ่มอะไรมาก นอกจากใส่หมุดเพิ่มที่เกราะอกสีดำด้วยชุดแต่ง MSG ของโคโต
ที่เหลือก็ย้ำลายเพิ่มให้ชัดหลายจุด แต่ก็ยังพลาดไม่ได้ย้ำลายตรงรอบช่องอากาศข้างเอว เส้นเบลอเลอะไปเลย
มือกำใช้ชุดแต่งมือ old robot เอามาก็อปด้วยอีโป้ขัดกันมือหงิก จะได้มือกำหล่อๆ
สีที่ใช้
-โครงใน: สี burnt iron ของ jumpwind
-เกราะสีแดง: รองพื้นด้วย surface red ของ gaia note, พ่นทับด้วยสีแดง detail red ของ Ancholet,
แล้วพ่นทับด้วยสีเคลียร์เงาของไกอา 70% ผสมกับ metalic red ของ Ancholet เพื่อให้พื้นผิวดูมีเกล็ด
เมตัลลิคนิดๆ แล้วเคลือบด้วย clear gloss EX ของ gaia note
-สีปืน: พ่นด้วยสี EX ของ Mr.hobby เบอร์ GX201 metalic black ผสมด้วยสีเคลียร์ฟ้า
ที่ใช้สำหรับผสมกับสีตระกูลเมตัลลิคคือ Mr.hobby เบอร์ CR1
-สีท่อพลังงาน: SM206 super chrome silver2 ของ Mr.hobby แล้วพ่นคราบเขม่าด้วยสีเคลียร์
น้ำตาล(ผสมเอง) พ่นปลายท่อบางๆ (แต่ออกมาหนาไป555)
-สีเกราะสีดำ: พ่นด้วยสีดำ EX black ของ gaia note
-เก็บงานดีเทลตามเกราะและโครงในหลายจุด ด้วยสี citadel สูตรทา ตระกูลเมตัลลิคทั้งหลาย
-ปิดงานด้วยเคลียร์ด้าน ของ Modo
งานนี้ลุยทำสีนัดกันกับคนมีโมเกลกุ๊กจอนนี่ที่สั่งพีบันไดมาพร้อมกัน ให้พูดชื่อได้ไหม555
หลายคนนะ แต่ทำเสร็จกันสองเครื่องคือของผม และ naoriazel
แอ็คชั่นแรกกันก่อนยืนเช็คชื่อพร้อมบาซูก้าคู่ใจและโล่ห์ใหญ่บึ้ม
แอ็คชั่นยิง
ด้านหลัง โชว์กั้นพ่นหลายจุด อิงสีจาก robot tamashii
แอ็คชั่นด้านหน้าอีกรูป
ยืนตรงเช็คชื่อ ดีแคลน้ำ หลักๆใช้ของที่ให้มาในกล่อง เน้นเฉพาะรหัสหุ่น พวกสัญลักษณ์เล็กๆ ตามเกราะ
ใช้ของสเกล 1/144 จะได้ดูเป็นหุ่นยักษ์ใหญ่ตามสมัยนิยม
ซูมคว้านรูเก่าให้ลึกแล้วติดด้วยชุดแต่ง MSG ของโคโต
เก็บดีเทลโครงด้วยสีทอง citadel
กั้นพ่นท่อพลังงานใต้ฝ่าเท้าและเก็บดีเทล(ยังเก็บเพิ่มได้อีกนะแต่ไม่ได้ทำ555)
ซูมท่อพลังงาน พ่นเขม่า
ซูมท่อชัดๆ ไม่ทำสีด้านในแดงหรือเหลือหรือฟ้า เนื่องจากอิงตามรูป illust เก่า ไม่มีสีข้างใน
เก็บดีเทลร่องเท้าส่วนสีแดง ด้วยสีเมตัลลิคทาของ citadel
โชว์นักบินกันหน่อย สายเพ้นท์เบลอ555
ซูมนักบินใกล้ๆ พยายามเขียนลายสีเหลือที่เสื้อและกางเกงให้เหมือนรูปวาดจอนนี่บนปกมังงะ
อาวุธที่ให้มาในกล่อง จับทำสีให้หมด แต่ลืมถ่ายบาซูก้ากระบอกยาว
รับชมติติงกันได้ตามอัธยาศัยครับก่อน
แล้วพบกับผลงานใหม่อีกไม่นานครับ รับปากกันไว้ในกลุ่มและนอกรอบหลายงาน
ขอบคุณครับ
รูปสุดท้าย ท่านผู้นำสูงสุดให้ลง ทำไมดูแก่จังเนี่ยไม่ผ่านสักห้าแอฟแบบสาวๆ บ้างนะ555
พอได้ทำจริง แอบ ยากพอสมควรครับ ด้วยระบบ การเปลี่ยนร่าง ที่ซับซ้อน สมกับเป็น MG ยุคใหม่ บางจุดอาจตกรายละเอียดไป + กับดีคอลเป็น ของรุ้น 2.0 ต้อง มานั่งปรับให้เข้ากับ Ver.ka +ตอนจบ เคลียร์ด้านไปกัดชั้นผิวสีอีกต้องมานั่งแก้ในส่วนที่แก้ได้ สมบุกสมบันพอสมควรเลยครับ
Ver.ka ตัวนี้จุดที่ต้องติ มีเรื่องของ ราคาที่เปิดตัวมา 2 พันกว่าและไม่แถม mega launcher มาให้ ดีเทลที่ดูผ่านๆ โล้นๆ แทบไม่ต่าง กับ 2.0 แต่ชดเชย เรื่องความแข็งแรง ที่ทำออกมาได้ดีจริงๆ แต่พอทำสีเสร็จ ไม่กล้าจับเปลี่ยนร่างจริงๆครับ รวมๆไม่ค่อยสมกับ ราคาเท่าไหร่ แต่ชอบ ที่เป็นตัวคลาสสิคสำหรับยุค UC
รุ่นที่เลือกทำ จะเป็นของสังกัด US. Coast Guard ที่ทาง HobbyBoss ทำออกมาแบบตรงรุ่น decal มีให้เป็น Serial# 6009 ไม่มี options ทางเลือกให้ปรับไปเป็นลำอื่นๆเลย ส่วน Model ของทาง Hasegawa เหมือนจะมีแต่รุ่น SH ที่เป็น SeaHawk ปกติ ก่อนหน้าเคยมี resin kit ที่ไว้สำหรับ Upgrade ไปเป็นของยามชายฝั่งแต่ให้ง่ายเลยเลือกตรงรุ่นดีกว่า
ของค่าย HobbyBoss ลำนี้เป็นอะไรที่ดูสวยงาม บางส่วนเติมเต็มส่วนที่ขาดไปของ Hasegawa ไม่มี เช่น main rotor /ด้านท้าย หมุนได้จริง, บันไดขึ้นของนักบินทั้งสองข้าง (แต่เล็กๆจนพลาดทำหักไปด้านนึงเหมือนกัน) มีเพิ่มเติมส่วน Cabin มาด้วย เป็นฝ้าของห้องโดยสารภายในแต่ไม่ได้ละเอียดอะไรมาก จริงๆก็เหมือนให้มาเพื่อประกอบ/ปิดประตูไม่เปิดโชว์ของด้านใน แต่อดเสียดายไม่ได้เลยว่าจะทำแบบเปิดออกทั้งประตูและหน้าต่าง ส่วนห้องนักบินก็เจาะด้านคนขับฝั่งขวาออก จะเหมือนของ Hasegawa เลยต้องเพิ่มเติมให้ห้องนักบินดูมีอะไรขึ้นหน่อย เสียดายที่ Console กลางไม่มีรายละเอียดอะไรมาให้เลย สิ่งที่ทั้งสองค่ายไม่มีให้มา คือกระจกมองข้างของทั้งสองนักบิน เลยดัดแปลงจาก Jigsaw puzzle 3D ที่พอหาได้จากห้องเก็บของ แต่ติดยากเพราะกรอบกระจกหน้าจะโค้งนิดๆ ไม่ได้ระนาบเรียบตรงๆ
แผงที่ให้มาชิ้นส่วนเหลือเยอะพอสมควร เหมือนใช้แผง runner ร่วมกับรุ่นกู้ภัยและมีจรวด Penguin และปืนกลให้มาด้วย เสียดายแค่ ถังน้ำมันภายนอกแบบสั้น ที่ต้องติดที่ด้านขวาข้างที่มีประตูเลื่อน ไม่ได้ให้มา กลังคิดอยู่ว่าจะแกะทำ Mold จากอันใดอันนึงของสองอันที่มีมาดีไหมอยู่เลย ที่ให้มาเองก็ ครีบด้านหลัง ทำมุมแบนมากเกิน ไม่เหมือนของจริง ที่จะทำมุมกันเกือบ40-45องศา เลยตัดแต่งออกมาไว้ละ แต่แปลกที่ติดกาวฝาส้มไม่ค่อยยึดอยู่เลย
https://www.airport-data.com/aircraft/photo/000156851.html อันนี้เป็นข้อมูลเครื่องจริงสำหรับอ้างอิง credit ตาม link เลยครับ จริงๆก็เกือบตัดใจเอาไปทำสีเหลืองละแต่ดุยุ่งยากเรื่อง decal ไปอีกเลยทำตรงกะใบต่อแหละ
แปะเทปกาว มัดยางหลวมๆ ประกอบดูรูปร่างรูปทรงและขนาดดูแล้ว ออกมาถูกใจมาก แต่ก็มีข้อโน่นนี่ที่ต้องเจอและต้องแก้ไขแน่ๆ
บันไดขึ้นห้องนักบิน ปรากฏว่าหักไปด้านนึงเลย เพราะเล็กมาก ขนาดว่ายังไม่ได้ลงตะไบ/ขัดกระดาษทรายน้ำเก็บตะเข็บเลย อีกอันเลยตัดด้วยความระมัดระวังมาก
จรวด penquin ที่ให้มาเกิน ที่สามารถเลือกติดครีบทั้งสี่แบบพับได้ด้วย ส่วนเดือยเล็กๆที่ข้อพับของ ล้อหลัง นั่น เกือบเฉือนทิ้งออก ตัดแต่งไปละ ดีว่าทำข้อมูลแล้วเจอพอดี ไม่งั้นละเศร้าแน่ๆ ส่วนชิ้นด้านขวาเป็นแกนรองก่อนกระแทกแพนหางแนวนอนด้านท้ายหมุดสี่ตัวก็ห้ามไปเฉือนออกแหละ
HobbyBoss มีเพิ่มเติมส่วน Cabin ฝ้าของห้องโดยสารภายในแต่ไม่ได้ละเอียดอะไรมากเท่าที่ควร
ส่วนห้องนักบินก็เจาะด้านคนขับฝั่งขวาออก จะเหมือนของ Hasegawa หลังพ่นเสร็จใจหายวาบเลย เพราะด้านหน้าเทปกาวเผยอ ส่วนด้านในลืมแปะตรงกลางกระจกเลยสีดำพ่นติดแต่เอา Thinner ขัดออกแล้วยังพอใสอยู่บ้าง
มีที่นั่งให้เลือกติด แต่ก็ติดไปตามใบต่อไม่ได้ปรับที่นั่งอะไร ส่วน hovercraft ข้างๆเลยได้พ่นไปด้วยกัน
หลุมล้อก็โบ๋/ผนังด้านใน นรกมาก แต่ก็เตรียมการไว้ละ
มุมจากด้านในจะเห็นชัดเจนเลย หลุมสองด้านเลยเอากระดาษแปะรอไว้ทั้งสองด้านก่อนเพราะมันเป็นระนาบโค้ง
ประตูห้องนักบินด้านขวาตัดออกเตรียมทำรายละเอียดตามรูปอ้างอิง
เห็นอนาคตเล็กน้อย กับการประกบชิ้นทั้งสองด้านของลำตัว เกยสูงด้านต่ำด้านแน่นอน
กระจกหน้าเผลอ ไม่ลงตัวแต่คงไม่อุดเพิ่มอะไรละ งานงอกแน่นอน
ตรงประตูเลื่อนได้มือจับจากเก้าอี้ส่วนที่ไม่ได้ใช้ มาติดเสริมตามตำแหน่งให้ใกล้เคียงของจริง
Cabin ที่นั่งด้านในมุมที่หนึ่งและจุดที่เจาะ STEP สำหรับปืนข้างลำตัวด้านนอกทั้งสองด้าน
Cabin ที่นั่งด้านในมุมที่สองและแผ่น plastic บางๆที่เอามาเสริมภายในให้กับจุดที่เจาะไว้ด้านนอกทั้งสองด้าน
อีกหนึ่งมุมแนวนอน และตำแหน่งติดตั้งถังเชื้อเพลิงภายนอกที่ทำสีดำด้านไปด้วย
เพิ่มเติม RACK อุปกรณ์วิทยุหลังนักบินฝั่งขวาและที่วางอุปกรณ์กู้ชีพที่มุมด้านในของฝั่งประตูเลื่อน เก้าอี้ส้มใช้ทาแล้วไม่ค่อนเรียบและดันแววไม่ด้านซะอีกเลยเอาแดงด้าน XF-7 ของ Tamiya ทาทับอีกที
แผ่นปิดครอบห้องนักบิน ไม่ต่อยตรงตามข้อมูลเลยต้องดัดแปลงทำครอบปิดเสริมเข้าไปใหม่
ตอนลองครั้งแรกมันไม่มีเส้นนูนๆที่ต้องเพิ่ม เลยไม่ติดขัดอะไร
หลังภายในเสร็จ เริ่มติดกาว แปลกๆกับกาวฝาส้มมาก ที่มันไม่ค่อยติด/ทำละลายกับเนื้อ plastic ของ HobbyBoss เอาซะเลย
หลังจากนั้นต้องใช้กาวฝาขาวลงใหม่แทนและมัดยางแบบแน่นขึ้นเพื่อให้มันประกบติด ทิ้งข้างวันเอาไว้
หลังจากการเอายางมัดนี่ ทำสิ่งเลวร้ายเอามากๆเลย แต่จำเป็น เพราะมันประกบไม่สนิทน่าจะเพราะแผ่นที่แปะเสริมมันไปเกยกับชิ้น cabin เดิมอยู่นิดนึง
รอยประกบจากชิ้นงานสองข้าง ที่งาน Scale model คงต้องเจอกันแทบทุกชิ้นงาน และอุดขัดแบบฉุกเฉินไปเพราะเครื่องไม้เครื่องมือมีไม่ครบครัน
ขัดได้เป็นบ่งจุดที่พอให้ดูไม่เห็นรอยประกบ แต่เนื่องจาก 1/72 และมันมีซอกหลืบในหลายจุดเยอะ เลยขัดอันนึงดันไปขูดอีกด้าน อ่วมเหมือนกัน แถมด้วยเรื่องที่คนทำ Scale model จะรู้คือ ร่องหายหมด
แอบวางเทียบขนาดกับอีกลำที่เตรียมไว้คราถัดๆไป
มุมใต้ลำตัวด้านซ้าย ดูใต้ซุ้มล้ออุดปิดไว้เรียบร้อยดี และที่บอกไว้ด้านบน ยางที่มัด มันไปโดนกะส่วนที่ติดไว้ก่อนๆหน้าเลยหักกราวไป ต้องมาติดใหม่หลายจุดเลย ส่วนแกนพร้อม Cable จะเปลี่ยนมาใช้เป็นแท่งทองเหลืองเล็กๆแทนละ
มุมใต้ลำตัวอีกด้าน ดูใต้ซุ้มล้อปิดที่ต้องเสริมด้วยแผ่น Plastic บางๆเหมือนที่แปะไว้ด้านใน ได้ผลออกมา OK
ของ HobbyBoss ดีตรง สามารถติดแพนหางแนวนอนแบบไม่ต้องติดกาวแต่ต้องเจาะร่องที่เค้าทำเตรียมไว้นิดหน่อยให้เหลือแต่แกน บางทีอาจให้ไว้เพื่อไว้ปรับพับขึ้น/ลงได้มั๊ง
แต่เนื่องจากแกนมันเป็นแค่ plastic บางๆตอนยัดเข้าไปมันฝืดที่มุมนอก ผลเลยย้วยๆแต่หาวัสดุผลักมันเข้าไปนิดหน่อยก้พอได้อยู่
วันนี้ยังดูอยู่ว่าถ้าไม่ติดอะไร อาจเอามาปิดด้านในแล้วพ่นสีพื้นลำตัวขาวอยุ่แหละครับ ได้ผลยังไง Update รอบหน้าจะมาเพิ่มเติมครับ
งานแรกของปีนี้ก็จัดของแรงๆไปเลยละกัน
MGEX Strike Freedom
แพลนทำสีตัวนี้ยังไม่สรุปแน่นอ
ใจนึังจะทำเงาแบบ MB ตัวแรก อีกใจนึงอยากให้โครงด้านและเกราะเงา
เมื่อวานมีเวลานิดหน่อยเลยทำการเทสสี ที่จะพ่นก่อน
เทสสีก่อนพ่นMGEX Strike Freedom
ชิ้นเทสทุกอันพ่นบนสีดำเงา
สีเมทาลิคผสมด้วย T09 Gaia
เปรียบเทียบสี
สว่าน Gaia Star Bright Gold
ช้อน 1 Volks KoG Gold และพ่นทับด้วย Gaia Pearl Gold
ช้อน 2 Volks KoG Gold
ช้อน 3 Gaia Star Bright Brass
ภาพ2
ชิ้นงานที่เป็นตะเข็บ ขัดตะเข็บออก แล้วพ่นแบบช้อนที่1
ภาพ3
เทียบสี Super Copper ของ Mr.color กับแผงCopper Gold
ภาพ4
เทียบสี ช้อน1 กับแผง Yellow gold
ปัญหาที่พบหลังเทสรอบนี้คือ
Real Gold ของไกอาพอเปลี่ยนทินเนอร์มาผสมตัว Smooth ของ Raditz แล้วตัวสีมีปัญหาคือกัดหน้าสีชั้นก่อนหน้า ไม่แน่ใจว่าเกิดเพราะชั้นสียังไม่แห้งดีหรือไม่
ไว้ต้องโอกาศเทสใหม่
รอบนี้เลยขุด Hazegawa VF-1J 1/48 เป็นโมเดลขนาด 1/48 Macross ลำแรกที่ Hazegawa ทำออกมาขาย
เปิดกล่องออกมา มันช่างใหญ่เต็มไม้เต็มมือดีแท้ เข้าใจว่าจะไม่ทรมานสายตา
แต่ไม่เลยครับ ด้วยสเกลใหญ่ รายละเอียดก็เพิ่มขึ้น
ผ่านไปวันแรก เล็งแล้วเล็งอีก แต้มแล้วลบอีก ปวดตาดีแท้ แต่สนุกจริงๆ
เก้าอี้นักบิน ขอเก็บงานเท่านี้แล้วกันครับ พอเอานักบินมาวางบังเก้าอี้เกือบมิด
ถนอมแรง ถนอมสายตาไว้เพ้นท์นักบินดีกว่า
จบงานวันแรก ได้เท่านี้ล่ะครับ
ปล. ดองนานไปหน่อย ดีคอลเริ่มกรอบ mark setter mark softer ช่วยได้ระดับนึงครับ
ของานหยาบ ตรงไหนลอก แต้มสีเอาแล้วกันครับ
ปล2 เพิ่งทำ ข่าไก่ คู่อริมาครอสเสร็จ เดี๋ยวมีโอกาส ถ่ายรูป เอามาลงให้ชมครับ
https://www.hlj.com/1-72-scale-desert-babes-limited-edition-edu2137
น่าลองเหมือนกันนะครับกะค่าย Eduard ที่ปกติจะทำแค่ DetailsUp Parts
ใน Cockpit นี่รายละเอียดยิบย่อยเลย
ทั้งๆที่ Scale แค่ 1/72 ถ้าทำแบบปิดก็ดีตรง ไม่ต้องกังวลถ้าห้องเลี่ยงเรื่องฝุ่นไม่ได้ แต่รายละเอียดซะขนาดนี้ ไม่เปิดโชว์ของก็ดูน่าเสียดายไปเลย
ที่บ้านเป็นตู้ IKEA ทั้งหมด รุ่นมาตรฐานที่ว่านี้ ขอบ/ตรงบานเปิดมันมี GAP และมีฝุ่นเข้าไปสะสม พอหลายๆปีนี่ ต้องหยิบทุกตัวออกมาทำความสะอาดกันที เป็นวัน/หลายวันก็มี
https://www.youtube.com/watch?v=KPv0AhOLTfo
Base kit มาจาก Revell ก้ไม่เลวนะครับ ถ้าเค้าพ่วงตัวสวยๆกะผลิตภัณฑ์งานหลักของเค้ามาด้วยเลย (Photo Etch) ที่บางทีหาสั่งทีหลังยากถ้าขาดตลาด
ก็เห็นหลายๆค่าย มีทำในแนวนี้ออกมาบ้างอยู่ เดี๋ยวนี้เอื้ออำนวยขึ้นมากเลยครับ
ส่วนตัวว่าเอามาสมมติเป็นศัตรูของ F-14 รึ F-18 จะทัดเทียม/เสมอชั้นกว่า F-5 ตกรุ่นกว่าแหละครับ (แต่จะกลายเป็น F-14จะตกรุ่นแทน)
ปล.
เชื่อว่าสินค้า Macross ดีๆคงทยอยออกตามมาอีกเยอะหลังข้อตกลงทางกฎหมาย ลงตัวทุกฝ่าย
คุณ Marasai นี่เจ็บหนักกับHiMetal เหมือนกันนะครับเนี่ย
ช่วงนี้หนัง TOPGUN ฉายแล้ว F/A-18E ขายดีของขาดตลาดตามคาดครับ
มิน่าช่วงนี้โม F-18 ยากที่จะเล็งไว้จริงๆเลยครับ ตามกระแสหนังเลย
LED ไร้สายนี่จะว่าใช้งานง่ายก็ง่าย แต่ว่ายากก็ยาก มันต้องมีมุมวางที่พอดีๆ หน่อยไม่งั้นจะไม่ค่อยสว่าง ที่มีอยู่นี่คือของที่ออกมานานพอควรแล้วแต่ขี้เกียจเอามาใช้ครับ เห็นมีขายรุ่นใหม่ๆแบบต่อสายออกจากตัวรับมาประมาณ 10 cm ดูแล้วเอามาประยุกต์ใช้งานง่ายกว่าเยอะ หาช่วงที่ลดราคาจะได้ชุดนึงประมาณ 200-350 บาท ได้ขดลวดต้วส่งหนึ่งตัวกับ LED bit ตัวรับสิบตัว (จาก aliexpress) ถ้าไม่ขี้เกียจเสียก่อนอาจจะ review ขีดจำกัดให้ดูครับ